กาญจนบุรี - เกษตรกร 5 อำเภอเมืองกาญจน์เตรียมเฮ นายกฯ สั่งเร่งรัดโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์บรรเทาปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก อนาคตจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าอีสานตะวันตกต่อไป
วันนี้ (20 ก.พ.) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 4 ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ กล่าวว่า จากกรณีกรมชลประทานและสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ดำเนินโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.บ่อพลอย อ.หนองปรือ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
จากข้อมูลทราบว่าการก่อสร้างโครงการดังกล่าวมีด้วยกัน 4 ระยะ ระยะที่ 1 ก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำลอดใต้ภูเขาที่ระดับเฉลี่ย 500 เมตรจากผิวดิน ไปลงอ่างเก็บน้ำลำอีซู ขนาดอุโมงค์ 4.20 เมตร ความยาว 20.500 กิโลเมตร อัตราผันน้ำวันละ 1.036 ล้าน ลบ.ม. ระยะที่ 2 ก่อสร้างระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำอีซู ถึงบ่อพักน้ำหลุมรัง ท่อส่งน้ำเหล็กเหนียว ขนาด 2.50 เมตร ความยาว 14.195 กิโลเมตร
ระยะที่ 3 ก่อสร้างบ่อพักน้ำหลุมรังขนาด 651 ไร่ ความลึกน้ำ 4.00 เมตร ความจุบ่อพักน้ำ 3.70 ล้าน ลบ.ม. และระยะที่ 4 ก่อสร้างระบบส่งน้ำจากบ่อพักน้ำหลุมรังไปพื้นที่รับประโยชน์ ประกอบด้วยคลองสายหลักเป็นคลองดาดคอนกรีตยาว 94.165 กิโลเมตร และท่อส่งน้ำสายซอยจำนวน 42 สาย ระยะทางรวมกัน 314 กิโลเมตร
ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ เห็นด้วยกับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่งเพราะพื้นที่ 5 อำเภอประสบปัญหาภัยแล้งมาอย่างยาวนาน อยู่ใน Area-base แก้ไขปัญหาภัยแล้ง เป็นพื้นที่อับฝนทำให้มีปริมาณฝนน้อย แหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่มีน้อย ค่า WMI ต่ำ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรน้ำฝน ประชาชนมีรายได้ต่ำ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือพัฒนาโครงการแหล่งน้ำแต่ยังไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะเป็นการเพิ่มศักยภาพน้ำต้นทุนให้พื้นที่ภัยแล้งของอำเภอบ่อพลอย ห้วยกระเจา เลาขวัญ หนองปรือ และอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่รับประโยชน์ได้ประมาณ 2.90 ล้าน ลบ.ม./ปี
สนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ชลประทาน 412,736 ไร่ และฤดูแล้ง 17,200 ไร่ สามารถเปิดพื้นที่ชลประทานใหม่ได้ 369,567 ไร่ ทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ และบริเวณใกล้เคียงตามนโยบายของรัฐบาล โดยการส่งเสริมให้ราษฎรในท้องถิ่นมีอาชีพการเกษตรกรรมที่มั่นคง ครัวเรือนได้รับประโยชน์จาก โครงการไม่น้อยกว่า 53,810 ครัวเรือน เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 130,059 บาท/ครัวเรือน
นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่าที่ผ่านมามีโอกาสเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง อ.บ่อพลอย อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยท่านนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามและเร่งรัดหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดำเนินโครงการดังกล่าวโดยเร็ว ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีแทนชาวบ้านที่เล็งเห็นความสำคัญของโครงการอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้ทั้ง 5 อำเภอ เชื่อว่าอีกไม่นานพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ และอนาคตจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอีสานภาคตะวันตกอีกต่อไป