xs
xsm
sm
md
lg

สลด! หนุ่มหล่มสักกับเพื่อนบ้านควบอีแต๋นเข้าทำแนวกันไฟ ลูกซองลั่นเจาะหัวเละดับคาที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบูรณ์ - หนุ่มวัย 33 ปี พร้อมเพื่อนบ้านควบอีแต๋นเข้าทำเเนวป้องกันไฟป่าท้ายไร่เชิงเขาห้วยสะดวง โชคร้ายปืนลูกซองลั่น กระสุนเจาะหัวเละเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางไฟป่าที่กำลังลุกลามมาใกล้และสภาพอากาศที่หนาวเย็น


ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านติ้วได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ 191 เพชรบูรณ์ ว่ามีเหตุปืนลั่นใส่ศีรษะ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หมู่ 1 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.เศษที่ผ่านมา (22 ก.พ. 67) จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และแจ้ง ร.ต.อ.เกียรติคุณ เกษามูล ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านติ้ว พร้อมด้วยชุดสายตรวจ ชุดสืบสวน และอาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นไร่มะขาม ชายป่าเขตติดต่อกับเขตป่าสงวนฯ เชิงเขาห้วยสะดวง การเดินทางเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะรถยนต์เข้าลำบาก ประกอบกับเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว แพทย์เวรพร้อมทีมชันสูตรโรงพยาบาลหล่มสักต้องนั่งรถอีเเต๋นของชาวบ้านเข้าไปจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร

เมื่อไปถึงพบผู้เสียชีวิต 1ราย สภาพถูกลูกกระสุนปืนลูกซองยาวเจาะเข้าที่ศีรษะสภาพเละ คว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ด้านบนที่นั่งตำแหน่งคนขับรถอีแต๋นเอนมาทางคนนั่งข้าง เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ และรายงานต่อร้อยเวร สภ.บ้านติ้ว เพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพ

สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกบ้านหมู่ 1 ทราบชื่อคือ นายพนมพร ขวัญหมอน อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 1 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาที่ท้ายไร่ของตนพร้อมกับเพื่อนบ้านซึ่งเรียกแทนตัวกันเองว่าน้า เพื่อดับไฟป่าท้ายไร่เป็นสวนมะขาม ใกล้เชิงเขาสะดวง ซึ่งไฟลุกลาม และได้นำปืนลูกซองยาวซึ่งเป็นอาวุธติดตัวไปด้วย

กระทั่งเกิดเหตุสลดไม่คาดคิด ปืนลูกซองลั่นในระยะประชิดเข้าที่ศีรษะของนายพนมพร เสียชีวิตคาที่ทันทีในสภาพศีรษะเละ เจ้าของปืนที่ไปด้วยกันก็ตกใจแต่ก็ไม่ได้คิดจะหลบหนีแต่อย่างใด จึงได้โทร.แจ้งให้ญาติ-ผู้นำชุมชน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มาตรวจสอบ ทางเจ้าของปืนก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดเหตุแบบนี้และรอให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยินดีจะรับโทษทางกฎหมายหากตนมีความผิด

ซึ่งตอนนั้นสภาพอากาศในที่เกิดเหตุมีลมพัดหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 องศา ขณะเดียวกันไฟป่าได้ลุกไหม้ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก และกำลังลุกลามมาทางจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งประสานงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดับไฟป่าเข้าพื้นที่ระงับไฟป่าในเชิงเขาสะดวงเขตติดต่อกับป่าสงวนอย่างเร่งด่วน

หลังจากที่แพทย์ชันสูตร รพ.หล่มสัก พญ.กานต์ธิดา อักษร พร้อมกู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก ร่วมกันพลิกศพการเสียชีวิตแล้ว ประกอบกับญาติไม่ติดใจเอาความ จึงให้ญาตินำศพดำเนินการตามประเพณีต่อไป โดยอาสาสมัครร่วมกตัญญูหล่มสักช่วยเหลือห่อศพและนำศพส่งที่บ้านของผู้เสียชีวิตเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนเจ้าของปืนตำรวจตัวนำไปสอบสวนที่โรงพัก ดำเนินคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปืนเถื่อน






กำลังโหลดความคิดเห็น