เชียงใหม่ – ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ปรับแผนเชิงรุกสู้ไฟป่า เตรียมสั่งปิดป่าหลังพบเชื้อเพลิงเริ่มแห้ง พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝังตัวกินนอนในป่า 300 จุดเฝ้าระวัง นานต่อเนื่อง 2 เดือน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเผาป่า
นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ความสำคัญกับการป้องและแก้ไขปัญหาไฟป่าตามนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างมาก ในปีนี้จึงมีการปรับกลยุทธ์วางแผนเชิงรุกสู้ไฟป่า ให้ครอบคลุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่อยู่ในความดูแล 19 ป่า เนื้อที่ทั้งหมด 7.8 ล้านไร่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน โดยหลังจากตรวจสอบเชื้อเพลิงในป่า หากพบว่าแห้งแล้ว และเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ จะประกาศปิดป่าทั้งหมดทันที พร้อมตั้งจุดตรวจบูรณการร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ท้องถิ่น และชุมชน ตรวจคนเข้าออกป่า และปรับเปลี่ยนชุดปฏิบัติการที่ออกลาดตระเวน ให้ไปนอนเผ้าป่า อยู่ประจำใจกลางป่าเป็นจุดเฝ้าระวัง เกือบ 300 จุด ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.67 เป็นต้นไปต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่า และดับไฟให้ได้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกันหากเกิดไฟไหม้พื้นที่ป่าด้านนอก จะมีหน่วยจรยุทธ์ คือเจ้าหน้าที่ไฟป่า เร่งเข้าดับไฟ ซึ่งในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ดูแลพื้นที่ป่า 7.8 ล้านไร่ อยู่ 1,290 นาย หากรวมกับทุกภาคส่วนที่ระดมกำลังร่วมกันจะมีกำลังมากกว่า 3,500 นาย นอกจากนี้จะมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศอีกกว่า 300 นาย เข้ามาเพิ่ม หากมีสถานการณ์รุนแรง โดยในปีนี้พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือผืนป่าแปลงใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ซึ่งเป็นผืนป่ารอยต่อ 3 จังหวัด คือจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และตาก ที่ขณะนี้ยังไม่เกิดจุดความร้อน(Hotspot)เลย เพราะมีชุดลาดตระเวนประจำการอยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้มั่นใจว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้น ที่เล็งเห็นความสำคัญ ต่อปัญหาหาไฟป่าเพื่อป้องกันการเกิด PM 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน จะช่วยให้สถานการณ์ในปีนี้ดีขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา
