รัฐฉาน เมียนมา - สงครามโกกั้งยังยืดเยื้อ..ผู้นำกองกำลังลั่นกลางเทศกาลปีใหม่เดินหน้าปฏิบัติการ 1027 กวาดล้าง 4 ตระกูล-ทหารฐานอาชญากรรมไซเบอร์/แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังรบเมียนมา-โกกั้งเก่า (BGF) มา 65 วัน ยึดที่มั่นแล้ว 400 แห่ง-5 หัวเมือง 5 ด่านชายแดนพม่า-จีน
เผิง เต๋อ เหยิน ผู้นำกองทัพโกกั้ง (MNDAA) ซึ่งร่วมกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) และกองทัพยะไข่ (AA) ในนาม Three Brotherhood Alliance เข้าโจมตีฐานที่มั่นและยึดเมืองสำคัญในรัฐฉานตอนเหนือในปฏิบัติการ 1027 ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 2566 เป็นต้นมา ได้มีประกาศอวยพรปีใหม่ 2567 ระบุตำแหน่งตัวเองว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุด MNDAA - ประธานคณะกรรมการบริหารเขตพิเศษที่ 1 หรือเขตปกครองตนเองโกกั้ง ซึ่งเป็นตำแหน่งของนายไป๋ โซ่ว เฉิง ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเมียนมา
พร้อมเล่าถึงประวัติความเป็นมาของปฏิบัติการ 1027 ว่าหลังจากครบ 65 วัน Three Brotherhood Alliance สามารถยึดฐานที่มั่นสำคัญได้แล้ว 400 แห่ง โดยเฉพาะ MNDAA ยึดได้อย่างน้อย 250 แห่ง ยึดเมืองได้แล้ว 5 เมือง และยังยึดด่านการค้าชายแดนเมียนมา-จีน ได้จำนวน 5 ด่าน จนเรียกได้ว่ายึดคืนพื้นที่ที่เคยอยู่ในการปกครองมาตั้งแต่ยุคของเจ้าฟ้าได้แล้ว
นอกจากนี้ยังทำลายฐานขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้มากกว่า 300 แห่ง สามารถจับกุมอาชญากรได้หลายพันรายและมีคนจีนที่เกี่ยวข้องกลับประเทศแล้วกว่า 40,000 คน อย่างไรก็ตามยังคงเหลือฐานที่มั่นของทหารเมียนมาอยู่อีก 2 แห่ง
ผู้นำกองทัพโกกั้ง (MNDAA) แถลงอีกว่านับตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ทหารเมียนมาได้รัฐประหารยึดอำนาจก็ไม่เคยได้ใจประชาชน โดยตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเกิดองค์กรต่างๆ ในหลายภูมิภาคลุกขึ้นมาต่อสู้ สำหรับพวกเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ปฏิบัติการ 1027 ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปฏิวัติทั่วประเทศและได้ผลสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การต่อสู้ด้วยอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมากลับไปสนับสนุนคนใน 4 ตระกูล ให้เป็นหุ่นเชิดปกครองเขตปกครองตนเองโกกั้ง
เผิง เต๋อ เหยิน แถลงด้วยว่า กองทัพเมียนมาได้บุกเข้าไปในเขตปกครองตนเองโกกั้งเมื่อปี 2552 ทำให้ MNDAA ต้องอพยพออกไป และผู้ที่แปรพักตร์จาก MNDAA เข้าเป็นหุ่นเชิดในปกครองให้รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมามีการผลิตยาเสพติด เกิดแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อสร้างรายได้ให้กลุ่มเหล่านี้
โดยเฉพาะช่วง 6 ปีหลัง ได้ทำให้รัฐฉานเหนือเสียชื่อเสียงไป และมีชาวจีนถูกหลอกไปทำงานเป็นจำนวนมาก คนใน 4 ตระกูลที่แปรพักตร์จาก MNDAA และได้เข้าปกครองยังมีบริษัทอาชญากรรมไซเบอร์เป็นธุรกิจครอบครัวทุกกลุ่ม มีอาชญากรอยู่ภายในรวมกันมากกว่า 100,000 คน ทำเงินจากธุรกิจสีเทาปีละกว่า 100 ล้านหยวน ทหารเมียนมายังได้ติดอาวุธให้กับทั้ง 4 ตระกูล เพื่อคุ้มครองกิจการค้ามนุษย์ บังคับทำงาน หลอกลวงไปทำงาน ฯลฯ แม้แต่ตอนที่ MNDAA นำกำลังบุกเข้าไปก็พบว่าอาชญากรไซเบอร์เหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนีไปด้วยเฮลิคอปเตอร์
ผู้นำกองทัพโกกั้งยังปลุกเร้าให้ทหารต่อสู้ต่อไป โดยปฏิบัติการ 1027 ของ Three Brotherhood Alliance จะไม่หยุด จนกว่าอาชญากรรมไซเบอร์เหล่านี้จะถูกกำจัดให้สิ้นซากไปจากเขตโกกั้ง และหลังจากที่เคยเจรจาหยุดยิงกับกองทัพเมียนมาก็ปรากฏว่าได้มีเครื่องบินเจ็ตเข้าไปโจมตีในเขตโกกั้ง จึงทำให้การต่อสู้ยังคงยืดเยื้อ ในอนาคตจะไม่มีอาชญากรรมไซเบอร์ ยาเสพติด การกดขี่ประชาชน การทุจริต ฯลฯ อีกต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เผิง เต๋อ เหยิน เป็นบุตรชายของนายเผิง จา เซิง อดีตผู้นำ MNDAA และผู้ก่อตั้ง Three Brotherhood Alliance โดยชาวโกกั้งเป็นชาวจีนฮั่นที่เข้าไปปกครองพื้นที่รัฐฉานเหนือ ชายแดนเมียนมา-จีน มาตั้งแต่ยุคต้นราชวงศ์ชิง กระทั่งในยุคที่เผิง จา เซิง เป็นผู้นำ ทหารเมียนมาได้ชักชวนให้ MNDAA เข้าเป็น BGF (Border Guard Force) สังกัดกองทัพเมียนมา แต่เผิง จา เซิง ไม่ยินยอม จึงถูกรองผู้บัญชาการ MNDAA คือนายไป๋ โซ่ว เฉิง พาพรรคพวกรวม 4 ตระกูลหักหลังและหันไปเข้าร่วมกับทหารเมียนมา จึงทำให้เผิง จา เซิง นำทหาร MNDAA หลบหนีเข้าไปตั้งฐานในป่าและพยายามบุกยึดเมืองเล่าก์ก่าย เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองโกกั้งมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
จนถึงต้นปี 2565 เผิง จา เซิง ได้เสียชีวิตลงทำให้เผิง เต๋อ เหยิน ขึ้นเป็นผู้นำแทนและอาศัยปฏิบัติการ 1027 เข้ายึดคืนพื้นที่ในเขตปกครองตนเองโกกั้งได้เกือบทั้งหมด แม้แต่ในเมืองเล่าก์ก่ายก็ถูกยึดครองแล้วบางส่วน แต่การรุกคืบได้หยุดชะงักลงเมื่อมีการเจรจาหยุดยิงระหว่างทหารเมียนมา กับ Three Brotherhood Alliance ช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2566 ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แต่หลังเจรจาได้เพียง 7 วัน ก็มีเครื่องบินเข้าโจมตีฐานที่มั่นต่างๆ ของ MNDAA โดยเฉพาะรอบเมืองเล่าก์ก่ายทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 66 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 67 ราย
ป้จจุบันการต่อสู้ยังคงยืดเยื้อ นอกจาก MNDAA แล้ว กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) ยังยึดเมืองสำคัญในรัฐฉานเหนือ เช่น เมืองน้ำคำ น้ำตู้ ฯลฯ ส่วนกองทัพยะไข่ (AA) ก็ยึดฐานที่มั่นได้กว่า 140 แห่ง ซึ่งมีรายงานว่าหาก MNDAA ยึดเมืองเล่าก์ก่ายและสถาปนาอำนาจการปกครองได้อย่างสมบูรณ์แล้ว พันธมิตรทั้ง 3 กลุ่มมีเป้าหมายจะโจมตีเมืองล่าเสี้ยวซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนในอีกด้วย