กรุงเทพฯ/เชียงราย – “บิ๊กโจ๊ก” นำขยายผลช่วยคนไทยหนีสงครามเมืองเล่าก์ก่าย-เขตปกครองโกกั้ง รัฐฉานเหนือ หลังช่วยกลับไทยแล้วกว่า 500 คน พบหลายคนร่วมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย แถมมีทั้งเมียจีนเทา-หัวหน้าทีมคุมคนไทย “สายเชือด”-คนคุมเงิน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เดก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ได้ประชุมร่วม พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าทาง VD Teleconference เมื่อเร็วๆ นี้ กรณีคนไทยจำนวนมากหนีภัยการสู้รบในเขตปกครองตนเองโกกั้ง รัฐฉานเหนือ ประเทศเมียนมา เป็นจำนวนมาก
ที่ประชุมได้สรุปผลการช่วยเหลือคนไทยกลับมาได้ 5 ครั้งได้แก่วันที่ 18 พ.ย.รับกลับเข้ามาทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 41 คน วันที่ 19 พ.ย. กลับเข้ามาทางท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 266 คน วันที่ 24 พ.ย. กลับเข้ามาทาง อ.แม่สาย จำนวน 23 คน วันที่ 3 ธ.ค. กลับเข้ามาทางท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 83 คน และวันที่ 5 ธ.ค. กลับเข้ามาทาง อ.แม่สาย จำนวน 111 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 525 คน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) ที่ค่ายเม็งรายมหาราช และกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.เชียงราย รวมทั้งศูนย์บูรณาการคัดกรอง หนองจอก กรุงเทพฯ พบมีผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งคดีทั่วไปและคดีเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 20 คน
และจากการคัดกรองยังพบผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จำนวน 174 ราย โดยคนไทยชุดแรกจำนวน 41 คน มีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 20 คน และเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลคนอื่นๆ พบเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงขออนุมัติหมายจับอีก 10 คน ปัจจุบันจับกุมได้แล้ว 4 คน โดยพบว่าเป็นภรรยาหัวหน้าจีนเทา 1 คน คนควบคุมการเงิน 1 คน ล่ามภาษาจีนที่สอนคนไทยทำคอลเซ็นเตอร์ 2 คน ส่วนผู้ที่หลบหนี 6 คน ถูกออกหมายจับในข้อหาสมทบกันค้ามนุษย์ด้วยการบังคับใช้แรงงาน
ขณะที่คนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือกลุ่มล่าสุดจำนวน 111 คนนั้น ได้มีการคัดแยกพบเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 85 คน ส่วนที่เหลือได้ขยายผล-ขออนุมัติหมายจับในคดีหลอกคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองแผน เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) รัฐฉาน จำนวน 19 คน ปัจจุบันจับกุมได้แล้ว 15 คน อายัดตัวดำเนินคดีอีก 2 คน รวม 17 คน
ซึ่งมีทั้งหัวหน้าคุมคนไทยหรือทำหน้าที่เป็นหัวหน้า 1 คน ทำหน้าที่เป็นพนักงานโทรศัพท์หลอกเหยื่อหรือเรียกกันในวงการว่า "สายเชือด" จำนวน 6 คน เป็นคนควบคุมการทำงานและลงโทษคนไทยด้วยกัน 2 คน เป็นหัวหน้าทีม A,B,E และ D ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและลงโทษจำนวน 4 คน และเป็นหัวหน้าทีม C,G และ F จำนวน 3 คน คนสุดท้ายเป็นคนควบคุมเงิน โดยมีคนหลบหนีอยู่จำนวน 2 คน ซึ่งทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันกับกลุ่มแรก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบคนไทยทั้งหมดทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าขบวนการค้ามนุษย์มีการจัดตั้งเป็นองค์กรและมีโครงสร้าง แบ่งงานกันทำ เช่น หัวหน้าฝ่ายบริการ ฝ่ายฝึกอบรมการทำคอลเซ็นเตอร์ ฝ่ายชักชวนคนไปทำงน ฝ่ายการเงิน ฝ่ายจัดหาล่าม ฝ่ายควบคุมการทำงานและทำโทษ ฝ่ายโทรหลอกลวง ฯลฯ
เหยื่อส่วนใหญ่ถูกหลอกว่าจะให้ไปทำงานเป็นคนควบคุมหรือแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ในเมืองเล่าก์ก่าย เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองโกกั้ง แต่เมื่อไปถึงก็ถูกบังคับให้ทำงานตามระบบและหากอยากกลับก็ต้องเสียค่าไถ่ตัวคนละ 200,000-700,000 บาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับทางการเมียนมาและจีนในการช่วยเหลือคนไทย เมื่อช่วยกลับมาได้แล้วก็มีการคัดกรองจนสามารถออกหมายจับได้อีกหลายราย ปัจจุบันก็ยังกำลังขยายผลดำเนินคดีในแต่ละราย ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ จึงขอประชาสัมพัธ์ไปยังประชาชนที่จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศให้ตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วน ให้เน้นความปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย หรือหากพบเบาะแสการหลอกลวงคนไทยไปทำงานคอลเซ็นเตอร์แจ้งได้ทางสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.