กาญจนบุรี - กลิ่นความเจริญกำลังมาเยือนเมืองกาญจนบุรี หลัง ส.ว.เสนอ ตัดถนนสายยุทธศาสตร์มุ่งหน้าไปชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นด่านการค้าที่สำคัญของบ้านพระเจดีย์สามองค์ ด้าน รมช.คมนาคมขานรับ อีก 17 เดือน คาดงบประมาณผ่านฉลุย
เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าที่ ร ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาผ่านประธานวุฒิสภาไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีขอให้เร่งปรับปรุงขยายช่องจราจรถนนทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงอำเภอทองผาภูมิ ไปอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ตอบกระทู้
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผมเคยเสนอกระทู้เป็นหนังสือไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปี 2559 สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี และหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือร้องขอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้นคือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา โดยได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาการจราจรถนนหมายเลข 323 ช่วงอำเภอทองผาภูมิไปอำเภอสังขละบุรี ซึ่งมีระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร เป็นถนน 2 ช่องจราจร ที่ตัดผ่านป่าลัดเลาะไปตามชายเขา มีปัญหาการจราจรที่คับคั่งขึ้น
ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายยุทธศาสตร์มุ่งหน้าไปชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นด่านการค้าที่สำคัญของบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า เป็นด่านการค้าที่มีมูลค่าปริมาณการค้าสูง นอกจากนั้น ในช่วงหลังอำเภอสังขละบุรีได้รับการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ในช่วงไฮซีซัน หรือฤดูกาลสำคัญมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอำเภอสังขละบุรีวันละมากถึง 1 หมื่นคน เพื่อจะไปชมด่านเจดีย์สามองค์ ไปชมวัดหลวงพ่ออุตตมะ (วัดวังก์วิเวการาม) ไปชมสะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดของประเทศไทย รวมทั้งไปเที่ยวชมโบสถ์ที่จมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ รวมทั้งไปชมวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าที่เชิงสะพานฝั่งชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ เป็นต้น
ทั้งนี้ เนื่องจากถนนมีผิวจราจรเพียงแค่ 2 ช่องทาง ที่เป็นเส้นทางทางการค้า เมื่อมีรถขนาดใหญ่วิ่งทำให้ไม่สามารถที่จะขับแซงกันได้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องใช้เวลานานเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้นหากได้รับการปรับปรุงเส้นทางการจราจรของถนนสายนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งในขณะนั้นท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ตัวผมซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประสานกับกรมทางหลวง ซึ่งขณะนั้นกรมทางหลวงให้ข้อมูลว่า ถ้าหากจะขยายถนนเส้นทางนี้ให้เป็น 4 ช่องทางจราจรนั้น จะต้องขอใช้ที่ดินจากป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคงต้องใช้เวลานานอีกหลายสิบปี
เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าเพื่อสร้างถนนอยู่แล้วคือมีความกว้าง 12 เมตร แต่ปัจจุบันการจราจร 2 ช่องการจราจร มีความกว้างอยู่เพียงแค่ 7 เมตร เพราะฉะนั้นหากมีการเพิ่มผิวการจราจรอีก 5 เมตรให้เต็มพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงทรัพยากรธรราชาติไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาขออนุญาตใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพย์เพิ่ม โดยสามารถดำเนินการขยายถนนให้กว้าง 12 เมตรตามที่ได้รับอนุญาตไว้แล้วได้เลยเพราะสามารถขยายช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจรได้เลยเช่นกัน
จากการที่ได้ติดตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ทราบว่ากรมทางหลวง และจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 2 ครั้งด้วยกันคือ เมื่อปี 2564 และปี 2565 ซึ่งทุกวันนี้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบันนี้ เคยเป็นอดีตนายก อบจ. และอดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี มา สิ่งที่ผมนำเสนอจึงเชื่อว่าท่านสุรพงษ์นั้นมีข้อมูลอยู่ในมือเป็นอย่างดี
ในฐานะที่ท่านเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หากจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และเป็นประโยชน์กับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในเรื่องของการค้าชายแดน และในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้น จึงขอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมช่วยเร่งผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาเพื่อที่จะดำเนินการให้เป็นของขวัญกับชาวจังหวัดกาญจนบุรี ให้สมกับสมญานามที่ท่านได้รับว่า หมอหนุ่ยของคนเมืองกาญจน์ ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ สมาชิกวุฒิสภา กล่าว
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวตอบกระทู้ว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ผมมาตอบคำถาม ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้นเป็นไปตามท่านว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ สมาชิกวุฒิสภา พูดมาเกี่ยวกับเส้นทางตั้งแต่อำเภอทองผาภูมิไปอำเภอสังขละบุรี ระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางดังกล่าวนั้นไม่มีไหล่ทาง เมื่อถึงช่วงไฮซีซัน หรือฤดูกาลท่องเที่ยวรถจะติดเป็นระยะทาง 20-30 กิโลเมตร
กระทู้ที่ถามมานั้นผมเห็นด้วยเพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อชาวจังหวัดกาญจนบุรี เพราะจังหวัดกาญจนบุรีนั้นมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นรองเพียงแค่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น สำหรับประชากรมีอยู่ประมาณ 8 แสนถึง 9 แสนคน มีเขื่อนใหญ่อยู่ 2 เขื่อนคือ เขื่อนศรีนครินทร์ตั้งอยู่ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ตั้งอยู่ อ.ทองผาภูมิ เขื่อนทั้ง 2 แห่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ จังหวัดกาญจนบุรียังมีประวัติศาสตร์ชาติไทยร่วมสมัยคือสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง มีกลุ่มชาติพันธ์ มีกลุ่มชนเผ่า เพราะฉะนั้นจึงทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากถึงปีละประมาณ 12 ล้านคน ประกอบกับการจราจรเส้นทาง M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งจะเปิดให้ใช้บริการเพื่อลดปัญหาการจราจรในช่วงหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ระยะทาง 51 กิโลเมตร ฟรี
สำหรับความคืบหน้าในการขยายช่องทางจราจรตั้งแต่ อ.ทองผาภูมิไป อ.สังขละบุรี ที่ท่านวุฒิสภาถามมานั้น มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่ไม่ใช่เฉพาะเส้นทางดังกล่าวเท่านั้น โดยจะมีการขยายช่องทางจราจรเส้นทางที่มุ่งหน้าไปเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ด้วย ทั้ง 2 เส้นทางมีระยะทางที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางเป็นถนนที่ไม่มีไหล่ทาง จึงทำให้รถติดและเกิดอุบัติเหตุ ชาวบ้านที่ใช้รถจักรยานยนต์มักเกิดอุบัติเหตุทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง
ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ทำการศึกษา ซึ่งกระบวนการศึกษานั้นคิดว่าน่าจะจบหมดแล้ว เหลือเพียงแค่นำเข้าสู่วิธีขั้นตอนในการของบประมาณเท่านั้น ซึ่งปีนี้งบประมาณปี 67 และปี 68 ซึ่งงบประมาณปี 67 กว่าจะผ่านกระบวนการงบประมาณน่าจะใช้ได้ประมาณเดือนพฤษภาคม จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการงบประมาณปี 68 คือประมาณเดือนตุลาคม อีกประมาณ 17 เดือนข้างหน้าจะทำให้เราสามารถใช้งบประมาณ 2 ปี คืองบประมาณปี 67 และ 68
ฉะนั้นโครงการนี้จะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จเพราะมันเป็นความจำเป็นของจังหวัดกาญจนบุรีและประเทศไทย เพื่อเอาไว้รองรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว อาจจะช้าอยู่บ้างเพราะเป็นเรื่องของงบประมาณ แต่การผลักดันขยายเส้นทางจากอำเภอทองผาภูมิไปอำเภอสังขละบุรี รวมทั้งเส้นทางจากจังหวัดกาญจนบุรีไปเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์นั้นอยู่ในแผนงบประมาณอยู่แล้ว
และที่สำคัญผมเป็นคนพื้นที่จึงได้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจริงๆ จึงขอให้ท่านวุฒิสมาชิก รวมทั้งพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรี และทั่วประเทศสบายใจได้ว่า กระทรวงคมนาคม รวมทั้งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมา ได้พยายามรวบรวมปัญหาต่างๆ ที่สะท้อนเข้าไป แล้วนำมาประมวลผลเพื่อนำไปสู่ภาคปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป” นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย รมช.คมนาคม กล่าว