สตูล - เจ้าคณะอำเภอมะนัง นายอำเภอมะนัง นายก อบต.ปาล์มพัฒนา และกำลังเจ้าหน้าที่ ช่วยกันนำอาหารและอุปกรณ์เครื่องมือสร้างคลังอาหารให้กลุ่มชาติพันธุ์ชาวมานิศรีมะนัง ที่ทับภูผาเพชร บ้านเหล็กไหล ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล หลังพบเริ่มขาดแหล่งอาหาร
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่ทับภูผาเพชร บ้านเหล็กไหล ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ภายในหน่วยพิทักษ์ป่าภูผาเพชร พระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง/เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนารามผัง 7 นายอำเภอมะนัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปาล์มพัฒนา และกำลังเจ้าหน้าที่ ช่วยกันนำอาหารและอุปกรณ์เครื่องมือ จอบ เสียม เครื่องตัดหญ้า รวมทั้งพืชพันธุ์ไม้ยืนต้น เช่น ต้นทุเรียนบ้าน ต้นมะพร้าว ต้นสะตอ มาช่วยกันสร้างคลังอาหารให้กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวมานิศรีมะนัง ที่ทับภูผาเพชร ซึ่งมีจำนวนประมาณ 30 คนที่อาศัยที่ทับแห่งนี้นานถึง 10 ปีแล้ว
จากสภาพปัญหาความแร้นแค้น อาหารป่าเริ่มขาดแคลน ทำให้ชาวมานิกลุ่มนี้ยอมรับว่า หาอาหารในป่าได้น้อยลง น้ำผึ้งหรือแม้กระทั่งหัวสมุนไพรไปแลกกับข้าวก็ได้ราคาไม่ดี และแม้จะออกไปรับจ้างชาวบ้านขึ้นต้นสะตอ ต้นเงาะ แต่ด้วยฝีมือแรงงานที่ไม่หลากหลายเหมือนชาวบ้านทั่วไป ทำให้การจ้างงานก็น้อย มาวันนี้ทางภาครัฐเห็นว่าหากไม่เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืน ด้วยการเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชให้ผล อาจจะสร้างความยากลำบากได้ในภายภาคหน้า
นายแป้น ศรีมะนัง ชาวมานิทับภูผาเพชร บอกว่า ตนคิดว่าไม่ยาก การเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เมื่อเจ้าหน้าที่เอามาให้เลี้ยง หรือมาปลูกต้นไม้ให้ก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องไปพึ่งพาชาวบ้านในชุมชนมากนัก
นอกจากนี้ การส่งเสริมอาชีพประเภทงานฝีมือ การจักสานกระเป๋าในรูปแบบต่างๆ พบว่าชาวมานิหลายคนมีฝีมือ หากได้รับการต่อยอดด้านฝีมือ และช่วยกระจายสินค้ายามที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา น่าจะเป็นรายได้ให้พวกเขาไม่มากก็น้อย
ด้าน นายเชษฐ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง กล่าวว่า ที่ทับมานิแห่งนี้มี 4 ครอบครัวใหญ่ จำนวน 30 คน ทุกคนมีชื่อในทะเบียนราษฎร มีบัตรประจำตัวประชาชน และได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทางผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัดและส่วนกลาง โดยเฉพาะท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญมาก โดยได้ส่งผู้ตรวจราชการ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาเยี่ยม และมีแนวทางในการพัฒนาความมั่นคงด้านอาหาร คุณภาพชีวิตและการศึกษา รวมทั้งเรื่องสาธารณสุข
โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนคือ ความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยมีแผนพัฒนาแหล่งน้ำโดยจัดหาน้ำจากน้ำตกที่อยู่ห่างจากทับแห่งนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยใช้ระบบประปาภูเขา จากน้ำตกใช้ในการอุปโภคบริโภค เลี้ยงปลาในบ่อ เลี้ยงไก่ไข่-ไก่พื้นเมือง และแปลงเกษตร เพื่อพัฒนาแหล่งอาหารให้
“โดยพบว่ามานิหลายคนให้ความสนใจมาก จากที่พาไปดูงานที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล ที่มีบ่อปลาเขาตื่นเต้นมาก ชอบกินปลาน้ำจืด น่าจะเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญให้ได้ และยังพบว่ากลุ่มชาติพันธ์มานิชุดนี้สามารถสื่อสารพูดคุยกับเขาได้โดยตรงว่ามีความต้องการสิ่งใด” นายอำเภอมะนัง กล่าว