อ.สังขละบุรี เร่งประชุมหารือเรื่องกลิ่นเหม็นยางพาราส่งข้ามเขตแดน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน

กาญจนบุรี - นายอำเภอสังขละบุรีจัดการประชุมหารือเรื่องกลิ่นเหม็นยางพาราส่งข้ามเขตแดน (Transit) ที่สร้างความเดือดร้อนให้พ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์

วันนี้ (23 พ.ย.) ณ ห้องประชุมราชสีห์ ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นอภ.สังขละบุรี ได้มอบหมายให้นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วย พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า นายพงศ์สันต์ แสงมาก รักษาการการยางแห่งประเทศไทย จ.กาญจนบุรี หัวหน้่ด่านตรวจพืชและสัตว์ หัวหน้าฝ่ายบริการกรมศุลกากร และผู้ประกอบการยางพาราที่นำเข้ายางพาราข้ามเขตแดน (Transit) ร่วมประชุมเพื่อหารือบันทึกข้อตกลง

เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีผู้ประกอบการค้าขายบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ร้องเรียนกับสื่อมวลชน และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสังขละบุรี ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นจากน้ำยางพาราที่นำเข้ามาจากประเทศพม่า และขนมาถ่ายบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ บริเวณลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวหน้าที่ทำการ ชุด ชป.กร.บ้านพระเจดีย์สามองค์ ของหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (กองกำลังสุรสีห์) มาตลอดช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา

โดยน้ำยางไหลออกจากรถบรรทุกพ่วงส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณหมู่บ้าน นอกจากนั้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ผ่านเข้าออกพื้นที่ส่งผลให้พื้นดินที่เป็นลานจอดรถเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีกลิ่นปัสสวะจากคนงานขนถ่ายยางพารา จนกลายเป็นข่าวดังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสื่อโซเชียล เนื่องจากในอดีตด่านเจดีย์สามองค์เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี

โดยในที่ประชุมวันนี้ได้ขอสรุปร่วมกัน และได้ทำบันทึกข้อตกลงการขนถ่ายยางพาราส่งข้ามเขตแดน (Transit) มีด้วยกัน 7 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.ให้ผู้ประกอบการขนถ่ายยางพาราได้เฉพาะไม่ต่ำกว่าชั้น 4 ขึ้นไปหรือยางเครพแห้ง แต่ยางเครพเปียกห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาด 2.รถบรรทุกพ่วงให้ขนถ่ายจุดหน้า บก.ควบคุม ส่วน ลว.ฉก.ลาดหญ้า และให้ขนถ่ายได้รอบละ 6 พ่วงเท่านั้น แลห้ามจอดรถบรรทุกพ่วงบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ 3.เอกสารทางศุลกากรและการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนรถบรรทุกฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามเขตแดน หากเอกสารไม่ครบห้ามเข้าผ่านแดน

4.ให้ตั้งกล้องวงจรปิดสถานที่ขนถ่าย 5.จุดที่จะขนถ่ายยางพาราผู้ประกอบการเสนอจุดหกพันไร่ 6.ช่วงการขนส่งระหว่างทาง ทางอำเภอขอความร่วมมือพนักงานขับรถและผู้ประกอบการหลบหลีกหรือให้สัญญาณรถเล็กวิ่งไปก่อนหรือช่วงขึ้นเนินให้ระมัดระวังรถที่ตามหลังมา 7.หากหากยังพบปัญหาหรือมีเรื่องร้องเรียน ฝ่ายความมั่นคงจะเสนอทางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการยกเลิกการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนต่อไป และทุกฝ่ายได้มีการเซ็นลงลายมืชื่อไว้เป็นหลักฐาน