บุรีรัมย์- เจ้าของร้านตัดเย็บเสื้อผ้าริมทางที่บุรีรัมย์เผยยอมกู้เงินนอกระบบหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัวส่งลูกเรียนมานานกว่า 10 ปี แม้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ20 ต่อวัน ทั้งถูกด่าข่มขู่และเคยถูกทำร้ายแต่ยังจำเป็นต้องกู้ เพราะไม่มีที่พึ่ง เคยไปยื่นกู้ธนาคารแต่ไม่ผ่านเพราะไม่มีขรก.ค้ำประกันให้ วอนรัฐบาลช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ชี้ลูกหนี้หลายรายกลัวอิทธิพลเจ้าหนี้ไม่กล้าไปลงทะเบียนและยังต้องพึ่งพา
วันนี้ (1 ธ.ค.) แม้วันนี้รัฐบาลจะเปิดให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบไปลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทั้งที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด และผ่านระบบออนไลน์ได้เป็นวันแรก เพื่อที่รัฐจะได้ทำการช่วยเหลือไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ให้ แต่ยังมีลูกหนี้บางส่วนที่ไม่กล้าไปลงทะเบียน เพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าหนี้และแก๊งทวงหนี้และบางคนบอกว่ายังจำเป็นต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบเพื่อนำไปใช้จ่ายในยามจำเป็นเนื่องจากไปยื่นกู้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารหลายครั้งแต่ไม่ผ่าน เพราะต้องมีหลักทรัพย์ หรือ ข้าราชการไปเซ็นค้ำประกันให้
อย่างเช่น นางเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์รายนี้ ซึ่งมีอาชีพเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้าริมทางเท้าเป็นอีกหนึ่งลูกหนี้นอกระบบ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปลงทะเบียนหรือไม่ ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ต้องไปกู้เงินนอกระบบหรือรายวัน แม้มีดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 บาทต่อวันและเสี่ยงถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายด้วย แต่จำเป็นต้องกู้ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและส่งลูกเรียน เนื่องจากรายได้จากการตัดเย็บเสื้อผ้าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว โดยที่ผ่านมาเคยกู้มากถึงครั้งละ 6 เจ้า เงินต้นตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ดอกเบี้ยมีทั้งร้อยละ 20 บาทต่อวัน และดอกเบี้ยลอย
อาทิ หากกู้เงินต้น 2,000 บาท ต้องส่งวันละ 100 บาทรวม 24 วัน เงินต้น 5,000 ส่งวันละ 250 บาท เงินต้น 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท เงินต้น 10,000 ส่งวันละ 500 บาท แต่ถ้าเลือกแบบดอกเบี้ยลอย หากกู้ 3,000 บาท ต้องส่งวันละ 60 บาท รวม 150 วัน รวมเป็นทั้งต้นและดอกเบี้ย 9,000 บาท ถึงแม้จะเป็นยอดที่สูงมาก แต่จำเป็นต้องกู้ไม่งั้นก็ไม่มีเงินไปใช้จ่ายและส่งลูกเรียน ซึ่งเจ้าหนี้บางคนใจดียอมให้ผัดผ่อนได้หากหาไม่ทัน แต่บางเจ้าไม่ยอมให้ค้างแม้แต่วันเดียว ที่ผ่านมาหาเงินไม่ทันเคยค้าง 2 วัน ทั้งถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายและเคยโดนตบหน้ามาแล้ว แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเราเลือกที่จะกู้ก็ต้องยอมรับสภาพกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
“หากรัฐบาลจะช่วยเหลือก็อยากให้หาแหล่งเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ไม่งั้นก็ต้องวนเวียนกู้เงินนอกระบบเหมือนเดิม”
ไม่ต่างจากนางแดง (นามสมมติ) อายุ 54 ปี ลูกจ้างร้านเย็บผ้า บอกว่า จำเป็นต้องกู้เงินนอกระบบเพราะรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งยังต้องส่งลูกเรียนอีก ที่ผ่านมาเคยไปยื่นกู้ธนาคารไม่ผ่านเพราะไม่มีใครยอมไปเซ็นค้ำประกันให้ จำเป็นต้องกู้เงินรายวันเหมือนเดิม แม้ดอกเบี้ยจะสูงถึงร้อยละ 20 ต่อวัน บางเจ้าดอกลอยแต่ก็ไม่มีทางเลือก
หากวันไหนหาจ่ายเขาไม่ทันก็ถูกด่าก็ต้องยอมให้เขาด่า และต้องหาไปจ่ายเขาให้ครบตามที่กู้มา อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ปลดหนี้ที่เหลือ หรือหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ จะได้ไม่ต้องเป็นหนี้รายวันเสี่ยงถูกข่มขู่ทำร้าย
