“จับอาบัง” ขบวนการปล่อยเงินกู้วางเครือข่ายในรูปแบบของการตระเวนขายของเร่ แฝงการหาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ

อ่างทอง - นายอำเภอไชโยเอาจริง “จับอาบัง” ขบวนการปล่อยเงินกู้มีการวางเครือข่ายในรูปแบบของการตระเวนขายของเร่ แฝงการหาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ให้กู้รายละตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน   

พันจ่าเอกสุริยา ภู่สวัสดิ์ นายอำเภอไชโย เผยว่า ได้มอบหมายให้ นายสุบัญฑิตย์ ไชยแก้ว ปลัดอาวุโส พร้อมด้วยปลัดฝ่ายความมั่นคง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอไชโยที่ 2 ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไชโย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชโย ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้รายวันนอกระบบ คิดดอกเบี้ยรายวันแพงให้แม่ค้าในตลาดจรเข้ร้อง และตลาดวัดไชโย  

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจพบว่า ปัจจุบันขบวนการปล่อยเงินกู้มีการวางเครือข่ายในรูปแบบของการตระเวนขายของเร่ แฝงการหาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ให้กู้รายละตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท ส่งรายวันๆ 300 บาท ตามจำนวนเงินที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน หากไม่มีให้จะมีการข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย   

จากการลงพื้นที่ได้พบนายทุนปล่อยเงินกู้ ชาวอินเดีย จำนวน 1 ราย ชื่อนายฮารินดาร์ กุมาร (Mr.HARINDA KUMAR) บริเวณร้านขายน้ำ ม.8 ต.ไชยภูมิ ได้ตรวจค้นพบของกลาง เป็นเงินสดจำนวน 340 บาท พบในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย มีปากกาสีน้ำเงิน 1 ด้าม  ประกอบด้วย แบงก์ 100 จำนวน 3 ใบ แบงก์ 20 จำนวน 1 ใบ ซึ่งภายในตัวพบเงินสดจำนวน 1,650 บาทในกระเป๋าเงินสีดำที่กระเป๋ากางเกง  

มีมุ้งสีน้ำเงิน จำนวน 1 หลัง ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ PCX สีขาว ทะเบียน 1 กฉ 8951 อ่างทอง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชโย แจ้งข้อหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 

ขณะที่ชาวบ้านเปิดเผยว่า สาเหตุที่กู้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ตกงาน ขาดรายได้ และไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนตามสถาบันการเงินในระบบได้ จำเป็นต้องกู้ยืมนายทุนนอกระบบประทังชีวิต