ระยอง - นายก อบจ.ระยอง วอนรัฐหนุนสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะเพิ่ม หลังปริมาณขยะพื้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หวั่นโครงการเมืองการบิน สนามบินอู่ตะเภารับนักท่องเที่ยวดันขยะล้นเมือง หลังปัจจุบันมีมากแล้วถึง 1,000 ตันต่อวัน สวนทางศักยภาพการกำจัดทำได้แค่ 500 ตัน ยันปัญหากลิ่นเหม็นไม่นิ่งนอนใจ
วันนี้ (21 พ.ย.) นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการไตรภาคีแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นขยะจากศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจร จ.ระยอง ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ อบจ.ระยอง เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นวงกว้าง
โดยมีคณะกรรมการไตรภาคีที่ประกอบด้วย ผู้นำชุมชน ประชาชนใน 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา ต.ทับมา ต.น้ำคอก อ.เมืองระยอง ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย และภาคเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ใน จ.ระยอง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมแบบครบวงจรจังหวัดระยอง ต.ทับมา อ.เมืองระยอง
นายปิยะ เผยว่าหลังได้รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้าน อบจ.ระยอง ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เร่งดำเนินการแก้ไขในทุกทาง ทั้งการฉีดน้ำ EM ลดกลิ่นเหม็น ใช้ผ้าคลุมกองขยะ ปรับช่วงเวลาการใช้เครื่องจักรโกยขยะ และสูบน้ำเสียจากบ่อฝังกลบลงบ่อบำบัด รวมทั้งคัดแยกขยะ เพื่อให้ลงหลุมฝังกลบน้อยที่สุด เนื่องจากปัจจุบันหลุมฝังกลบขยะเต็มจำนวน
นอกจากนั้น ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่เช็กทิศทางลม เนื่องจากเมื่อเข้าสู่หน้าหนาวทำให้เกิดปัญหาลมเปลี่ยนทิศ ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นน้อยที่สุด
“ขอยืนยันว่า อบจ.ระยอง มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และทำเต็มที่แล้ว แต่เนื่องจากปัจจบันปริมาณขยะที่เข้ามายังศูนย์กำจัดขยะมีมากถึงวันละ 1,000 ตัน แต่กลับสามารถนำเข้าโรงไฟฟ้าขยะได้แค่วันละ 500 ตัน อบจ.ระยอง จึงได้เสนอของบประมาณในการตั้งโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มอีก 1 โรง และหากได้รับอนุมัติจากส่วนกลางเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาขยะล้นศูนย์กำจัดขยะแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะโรงไฟฟ้าขยะระบบใหม่ไม่ต้องคัดแยก จึงเชื่อว่าสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย”
นายปิยะ เผยอีกว่า ปัจจุบันแนวคิดดังกล่าวยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงอยากวอนให้ทุกภาคช่วยกันผลักดัน เพราะหาก จ.ระยอง ไม่มีโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มเชื่อว่าในในอนาคตอันใกล้ศูนย์กำจัดขยะแห่งนี้จะมีปริมาณขยะล้นความสามารถในการจัดการอย่างแน่นอน
เนื่องจากการเกิดขึ้นของโครงการเมืองการบิน และการเปิดสนามบินอู่ตะเภาในเชิงพาณิชย์เพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น จะมีผลต่อปริมาณขยะในพื้นที่ จ.ระยอง ที่จะต้องมากตามไปด้วยอย่างแน่นอน
