อุดรธานี - เมียเผยทันทีที่ศพมาถึงบ้านค่ำนี้ก็จะสวดบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 2 คืนแล้วเผาวันที่ 28 ต.ค.นี้ หนี้สินที่ยืมเพื่อเดินทางไปทำงานอิสราเอลยังใช้ไม่หมด เหลืออีก 4-5 แสนบาท เผยก่อนตายสามีวางแผนจะมาเยี่ยมบ้าน 15 ต.ค.นี้แล้วกลับไปทำงานให้ครบตามสัญญาอีก 2 ปี หลังจากนั้นจะทำไร่ทำนาอยู่บ้านไม่กลับไปทำงานอิสราเอลอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกระทรวงการต่างประเทศแจ้งรายชื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 7 รายที่จะเคลื่อนย้ายร่างกลับประเทศไทย โดยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY083 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ (26 ต.ค.) เวลา 10.35 น. โดยรายชื่อประกอบด้วย นายธีรพงษ์ กลางสุวรรณ, นายศักดา สุระคาย, นายนิติกร แซ่ว่าง, นายอภิชาติ กุสะรัมย์, นายศักดิ์สิทธิ์ โคตรมี, นายศรีทัศน์ กาเหว่า และนายพิรุฬห์ ทานนพิมพ์ ซึ่ง 3 ใน 7 รายเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี 3 ราย
ประกอบด้วย นายธีรพงษ์ กลางสุวรรณ ภูมิลำเนา 151 หมู่ 5 ต.หนองไผ่ อ.หนองหาร เดินทางไปทำงานเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563, นายพิรุฬห์ ทานนท์พิมพ์ ภูมิลำเนา 68 หมู่ 6 ต.ท่าลี อ.กุมภวาปี ไปทำงานเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 และนายศักดิ์สิทธิ์ โคตรมี ภูมิลำเนา 93 หมู่ 3 ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง ไปทำงานในปี 2561
ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 151 หมู่ 5 ต.หนองไผ่ อ.หนองหาร พบญาติพี่น้องได้ช่วยกันกางเต็นท์จัดเตรียมสถานที่เตรียมพร้อมจัดบำเพ็ญกุศลศพนายธีรพงษ์ กลางสุวรรณ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้าน อสม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นางสาวสุดา เทพแก้ว อายุ 36 ปี ภรรยา บอกว่า วานนี้ได้รับแจ้งจากทางการว่าศพของสามีจะเดินทางมาถึงที่บ้านหลังนี้ประมาณ 19.00 น. เมื่อมาถึงญาติจะมีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ 2 คืน จากนั้นวันที่ 28 ตุลาคมจะทำการฌาปนกิจ สาเหตุที่สามีตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศนั้นก็เพราะว่าฐานะทางบ้านยากจนมีปัญหาหนี้สิน ก่อนไปสามียืมเงิน ทั้งกู้จาก ธ.ก.ส. และหยิบยืมจากญาติพี่น้องเพื่อที่จะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งตอนนี้เพิ่งผ่อนได้บางส่วน ยังคงเหลือหนี้อีก 4-5 แสนบาท
“ตอนนี้ยังกังวลว่าหนี้สินก้อนนี้จะใช้เขายังไงและยังไม่รู้ว่าจะนำเงินที่ไหนมาชดใช้ สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้นั้น ล่าสุดยังไม่มีหน่วยงานใดมาชี้แจงให้ทราบ เพราะตอนนี้ยังยุ่งกับงานอยู่ การจากไปของสามีไม่รู้จะอธิบายด้วยคำพูดอย่างไร แต่หากสามียังมีชีวิตอยู่ อนาคตครอบครัวคงจะมีอะไรที่ดีกว่านี้” นางสาวสุดากล่าว และว่า
ก่อนที่สามีจะเสียชีวิตได้วางแผนกันว่าวันที่ 15 ตุลาคมนี้เขาจะกลับมาพักและจะพากันไปเที่ยว และหากหมดสัญญาก็จะกลับบ้านมาทำไร่ทำนา ซึ่งยังเหลือเวลาสัญญาอีก 2 ปี ไม่คิดว่าสามีจะจากไปโดยไม่มีวันหวนกลับ สำหรับตนกับสามีแต่งงานจดทะเบียนกันมีลูกด้วยกัน 1 คน และลูกบุญธรรม 1 คนอายุ 17 กับ 16 ปี เป็นไปได้อยากให้สงครามสงบโดยเร็ว ไม่อยากให้เกิดการสู้รบแบบนี้ ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียกันอีก
