อุดรธานี-2 ศพแรงงานชาวอุดรฯสังเวยความขัดแย้งยิว-ฮามาสถึงบ้านเกิดแล้ว พ่อแม่และเมียร่ำไห้แทบขาดใจ เจ้าหน้าที่ฯเข้าแจ้งสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือเยียวยา โดยทั้ง 2 ศพจะฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 23 ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพแรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตสังเวยสงครามความขัดแย้งในอิสราเอลถึงไทยแล้วเมื่อวานนี้ชุดแรก 8 ศพ กระทรวงการต่างประเทศนำมอบให้ครอบครัวถึงภูมิลำเนาแล้ว ซึ่ง 2 ใน 8 ศพเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี คือ นายอนุชา โสภากุล หรือ แจ๊ค อายุ 28 ปี และนายชัยรัตน์ สานุสันต์ หรือ ปู อายุ 39 ปี จากนั้นรถตู้ของบริษัทเอกชนที่อาสานำส่งร่างไร้วิญญาณส่งให้กับญาติตามที่อยู่ภูมิลำเนา
โดยเมื่อเวลา 18.20 น.คืนที่ผ่านมา รถตู้ได้นำร่างของนายอนุชามาถึงที่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 10 บ้านเดียม ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมีพ่อแม่ปู่ย่ามารอรับศพ ท่ามกลางเสียงร้องไห้และความโศกเศร้า แต่เมื่อเห็นโลงศพลูกชายก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล
สำหรับศพนายอนุชา ได้เปลี่ยนแผนกำหนดการฌาปนกิจศพ จากเดิมแจ้งว่า พอมาถึงจะเผาเลยตามความเชื่อของชาวบ้าน แต่จะมีการสวดบำเพ็ญกุศลตามประเพณีและฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 23 ต.ค.66 ที่ป่าช้าอยู่ท้ายหมู่บ้าน เบื้องต้นนายอนุชาจะได้รับเงินเยี่ยวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 40,000 บาท และทางประกันสังคมจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพให้กับผู้สิทธิกรณีเสียชีวิต จำนวน 8,025.62 บาท
ขณะที่บรรยากาศ ณ บ้านเลขที่ 171 ม.9 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 20.30 น. รถตู้ของบริษัทเอกชนที่อาสานำส่งร่างไร้วิญญาณของนายชัยรัตน์ สานุสันต์ อายุ 39 ปี แรงงานที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอล ได้เดินทางมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน โดยมีภรรยา ญาติ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ส่วนราชการภาครัฐที่มารอรับและให้กำลังใจครอบครัว เมื่อรถตู้จอดหน้าบ้านเจ้าหน้าที่ได้ให้ภรรยามาจุดธูปบอกกล่าวเชิญดวงวิญาณเข้าบ้านเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
ซึ่งภรรยาได้ร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า สำหรับกำหนดการเบื้องต้นทางครอบครัวจะมีการประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพและฌาปนกิจส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้ายในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2566
นายชัยรัตน์ จะได้รับเงินเยี่ยวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานปทำงานต่างประเทศ จำนวน 40,000 บาท และทางประกันสังคมจ่ายเงินประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพให้กับผู้สิทธิกรณีเสียชีวิต จำนวน 61,386.61 บาท และเงินได้รับเงินช่วยเหลือแก่ภรรยา จากทางอิสราเอลเป็นเดือนเดือนละประมาณ 50,000 บาท
