ระยอง - สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนระยอง เตรียมยื่นหนังสือ รมว.อุตสาหกรรม เอาผิดเจ้าของกากอุตสาหกรรมพิษลักลอบนำฝังกลบในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ ทำค่าสารตะกั่วในดินสูงเกินกว่าที่ กม.กำหนด จี้ขนย้ายออกจากพื้นที่
วันนี้ (24 ก.ย.) นายวีระช้ย ช้างสาร เครือข่ายต่อต้านสภาวะโลกร้อน จ.ระยอง ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ตนเองจะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของกากอุตสาหกรรมที่มีการลักลอบฝังกลบในเขต ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เนื้อที่มากถึง 21 ไร่ และได้กระทำการในลักษณะดังกล่าวมานานถึง 16 ปี
โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จนนำสู่การประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง เพื่อเดินทางลงพื้นที่และสุ่มตรวจตัวอย่างกากอุตสาหกรรมรวม 6 จุด เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างกากอุตสาหกรรมที่ปนเปื้อนในดินเพื่อตรวจหาคุณสมบัติของสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่มีองค์ประกอบของสารอินทรีย์อันตรายในหน่วยมิลลิกรัมของสารต่อ 1 กิโลกรัมของสิ่งปฏิกูลสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
รวมทั้งยังพบสารตะกั่ว 6 จุดในพื้นที่ฝังกากอุตสาหกรรมที่มีค่าเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 800 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่จากการตรวจสอบพบว่าสูงสุดถึง 16,900 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และต่ำสุดที่ 3,720 มิลลิกรัม อีกทั้งพื้นที่ฝังกลบยังอยู่ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติที่ประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
“เจ้าของกากอุตสาหกรรมมีความผิดฐานนำกากอุตสหากรรมออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทรวงจะต้องมีคำสั่งให้ทำการฟื้นฟูสภาพดินปนเปื้อนสารอินทรีย์ที่มีสารโลหะหนักอันตรายให้กลับคืนสภาพที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และจะต้องดูแลสิ่งมีชีวิตและผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชน สังคมโดยรวม ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535”
นอกจากนั้น สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง ยังจะต้องเอาผิดกับเจ้าของกากอุตสาหกรรม ตามมาตรา 37 วรรค 1 เรื่องการนำกากอุตสาหกรรมมากองนอกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตตามข้อ 9 ประกอบข้อ 12 ของประกาศกระทรวงอุตสสาหกรรมเรื่องกำจัดสิ่งปฏิกูล พ.ศ.2548
และหากปกปิด รวมทั้งไม่ขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกไปกำจัดบำบัดทางวิชาการเครือข่ายจะฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไป
