ราชบุรี - ทนายความ พร้อมชายชุดดำเข้าขวางเจ้าหน้าที่กรมโรงงานเข้าตรวจในโรงงานกำจัดกากขยะ เพื่อติดตามการเคลื่อนย้ายกากสารเคมีจากขยะอุตสาหกรรม หลังสร้างปัญหาให้ชาวบ้านมานานกว่า 20 ปี
วันนี้ (20 ก.ย.) นายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรม จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ อบต.น้ำพุ และ อบต.รางบัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานมานานกว่า 20 ปี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อติดตามการเคลื่อนย้ายกากสารเคมีจากขยะอุตสาหกรรม หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา
โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มีคำสั่งให้ทางโรงงานได้ดำเนินการขนย้ายถังกากขยะอุตสาหกรรมออกไปกำจัดที่อื่น และให้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ปกติ แต่จนถึงขณะนี้ยังคงมีสารเคมีที่เป็นอันตรายตกค้างอยู่ในพื้นที่โรงงาน ซึ่งขณะจะเข้าตรวจพื้นที่กลับถูกกลุ่มชายชุดดำจำนวนมากที่อยู่ภายในโรงงานออกมาขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.ราชบุรี จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จ.ราชบุรี รวมกว่า 50 นาย มาเข้าร่วมเจรจาเพื่อจะขอเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ด้านใน
โดยมีนายสมจินต์ อธิยวัตร ทนายความของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ออกมาขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยอ้างว่าการตรวจสอบจะต้องมีหมายศาลมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งว่า เป็นการมาตรวจพื้นที่โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญบัติโรงงาน และใช้อำนาจตามกฎหมายปกครอง จึงไม่จำเป็นต้องใช้หมายศาล และโรงงานแห่งนี้ศาลได้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการและมีคำสั่งให้เยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
รวมทั้งให้ดำเนินการปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิม แต่เมื่อทางโรงงานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางหน่วยงานของภาครัฐจะต้องเข้ามาดำเนินการหรือมอบหมายให้หน่วยงานอื่นเข้ามาทำแทนได้ แต่ทางทนายความยังพยายามที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ซึ่งใครเข้าไปจะขอทำหน้าที่ทนายความของบริษัทในการไปแจ้งความข้อหาบุกรุก หากมีการนำสิ่งของออกมาต้องแจ้งความลักทรัพย์ หรือทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะชี้แจงให้ทนายสมจินต์ รับทราบว่าพื้นที่แห่งนี้มีปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 20 ปี และสร้างผลกระทบให้ชาวบ้านใน 2 อำเภอคือ อำเภอจอมบึง และอำเภอเมือง ซึ่งน้ำสารเคมีที่รั่วไหลได้ซึมลงพื้นดินจนถึงขั้นทำให้น้ำใต้ดินนั้นเสีย และมีการฟ้องร้องทั้งศาลแพ่งและศาลอาญา
จนมีคำสั่งศาลให้หยุดกิจการและทางอุตสาหกรรมไม่ได้ต่อใบอนุญาตประกอบกิจการให้นานแล้ว แต่ทางทนายสมจินต์ อ้างว่าตนนั้นเป็นทนายความชุดใหม่ของบริษัทไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ และเมื่อรับคำสั่งมาจากทางบริษัทฯ ว่าไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้า จึงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่นั้นไปขอหมายศาลมาถึงจะยอมให้เข้าและเรื่องที่ผ่านมานั้นไม่รับรู้ แต่หากยังมีการดื้อดึงที่จะเข้าจะต้องขอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งผลตรวจน้ำใต้ดินที่บอกว่ามีของเสียปนเปื้อนนั้น ทนายสมจินต์ อ้างว่าไปนำน้ำที่ไหนมาตรวจใช่ในพื้นที่หรือไม่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายว่าทำงานเรื่องนี้มาเป็นหลายปีแล้ว และผลตรวจจากห้องแล็บจนมีคำสั่งศาลออกมาแล้ว แต่ทางทนายสมจินต์ อ้างว่าไม่รับรู้เรื่องนี้ และยังยืนยันว่าไม่ให้เข้า ซึ่งใช้เวลาในการเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบด้านในโดยมีชายชุดดำจำนวนมากเดินตามถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปด้านในเพื่อนำไปเป็นหลักฐานให้ทางทนายความนำไปแจ้งความดำเนินคดี
สำหรับโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด แห่งนี้รับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม และมีการปล่อยน้ำเสียลงลำรางสาธารณะ รวมทั้งยังมีกลิ่นเหม็นของสารเคมีกระจายไปทั่ว สร้างผลกระทบให้ชาวบ้านมานานกว่า 20 ปี และมีการฟ้องร้องกันมานาน จนล่าสุดทางโรงงานเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ทำให้กรมโรงงานได้ให้ทางผู้ประกอบกิจการได้นำถังกากขยะอุตสาหกรรมที่ยังคงมีในโรงงานออกไปกำจัดที่อื่นและให้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ทางโรงงานได้มีการขอขยายเวลาออกไป จนเวลานั้นได้ล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้ว แต่การขนย้ายกากขยะอุตสาหกรรมยังดำเนินการไม่หมด จนทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมต้องว่าจ้างบริษัทอื่นเข้ามาดำเนินการแทนแต่มาถูกทางทีมทนายความและชายชุดดำขัดขวางดังกล่าว