ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คนขับรถโดยสารเมืองหมอแคนยิ้มออก หลังน้ำมันดีเซลปรับลดลิตรละ 2 บาท เหลือ 29.94 บาท/ลิตร เผยทำให้รายจ่ายลด เหลือรายได้เพิ่มขึ้น เผยอยากให้ปรับลดไม่ให้เกินลิตรละ 25 บาท ชี้ค่าโดยสารรถสองแถวเล็กถือว่าต่ำมาก วอนรัฐทบทวนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.ย.) เป็นวันแรกที่มีการปรับลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มลงลิตรละ 2 บาท โดยที่สถานีบริการน้ำมันจังหวัดขอนแก่น ราคาน้ำมันดีเซลชนิด B7 ราคาลิตรละ 29.94 บาท จากการสอบถามคนขับรถสองแถวเล็ก (รถโดยสารสาธารณะ) ที่ บขส.แห่งที่ 1 ริมถนนประชาสโมสร ซึ่งเป็นคิวรถโดยสารรับ-ส่งสาธารณะ สาย 3 สาย 4 สีเขียว ให้บริการประชาชน
นายสงคราม สังวร อายุ 51 ปี คนขับรถโดยสารสาธารณะ บอกว่า ตนประกอบอาชีพวิ่งรถรับส่งโดยสารสาธารณะมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่น้ำมันลิตรละ 10 บาท เมื่อก่อนวิ่งรถตั้งแต่เช้าจะได้ทุนในช่วง 10 โมงของทุกวัน ที่เหลือจะเป็นกำไรรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันวิ่งรถทั้งวันเหลือเฉลี่ยหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้วันละ 200-300 บาทเท่านั้น ทางรัฐบาลลดราคาน้ำมันลงให้ครั้งนี้ ขอขอบคุณนายกฯ เศรษฐา มาก แต่ถ้าจะให้ดี ให้อยู่ได้ไม่ลำบาก ขอให้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 25-26 บาทต่อลิตร และขึ้นค่าโดยสาร
ขณะเดียวกัน การคิดค่าโดยสาร นักเรียนโตและนักศึกษา ยังคิดค่ารถโดยสารเท่าเด็กเล็กอยู่ มีลูกค้ามาใช้บริการช่วงที่ค่ารถ 9 บาท และถามค่าบริการว่าเท่าไหร่ ตนเองบอกว่า 9 บาท ผู้โดยสารถึงกับตกใจและบอกว่าถูกมาก เพราะเคยใช้บริการที่ภาคกลางแค่ป้ายเดียวก็ 20 บาทแล้ว และในความเป็นจริงราคาค่าโดยสารที่จังหวัดขอนแก่นถูกกว่าทุกจังหวัด จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องค่าโดยสารควบคู่ไปกับลดราคาน้ำมันดีเซลด้วย
ด้านนายประยุทธ นาหนอง อายุ 64 ปี คนขับรถโดยสารสาธารณะสาย 3 บอกว่า ตัวเองยึดอาชีพนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 เป็นระยะเวลากว่า 37 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยค่ารถเที่ยวละบาทเดียว หากถามว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมานั้นช่วยอะไรได้มากน้อยขนาดไหน ส่วนตัวคิดว่าลดลงมาแบบนี้ก็ดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถามว่าอยู่ได้ไหมมันก็ต้องอยู่ต่อไปเพราะไม่สามารถไปทำอาชีพอื่นได้แล้ว ถ้าจะให้ดีจะแก้ปัญหาปากท้องให้กับคนขับรถโดยสารสาธารณะ คือตรึงราคาน้ำมันไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตรจะดีมาก เป็นราคาที่ไม่ถูกไม่แพงไป
จากช่วงที่ผ่านมาค่าน้ำมันอยู่ที่วันละ 200-300 บาท ปัจจุบัน 500-600 บาท ส่วนตัวพยายามควบคุมไม่ให้เกินวันละ 500 เพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อรายจ่ายที่เสียไป และอีกส่วนที่จะสามารถมาช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้ คือขึ้นค่ารถโดยสารในกลุ่มนักเรียนโต ให้คิดเท่ากับผู้ใหญ่ หรือปรับขึ้นอีกสัก 2-3 บาท ซึ่งปัจจุบันค่ารถโดยสารทั่วไปอยู่ที่ 10 บาท เด็กนักเรียน-นักศึกษา 6 บาท
ช่วงนี้ผู้โดยสารที่จะใช้บริการรถโดยสาร ก็ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน และคนใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักศึกษาหรือนักเรียน ม.6 ที่ใกล้เรียนจบ แต่ราคายังคิดเท่าเด็กเล็กคือ 6 บาทอยู่ ซึ่งถ้าสองอย่างนี้ทำให้ได้ ก็จะทำให้คนขับรถโดยสารสาธารณะสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ดีขึ้น
