ภูเขาไฟฟูจิอันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น จำเป็นต้องปิดเส้นทางไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมชั่วคราวในช่วงที่เหลือของปี ด้วยเหตุที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวมากเกินไป และยังเผชิญกับปัญหาขยะจำนวนมาก
มีรายงานข่าวในวันนี้ (13 ก.ย.2566) เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจังหวัดยามานาชิ เผยถึงแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ความสูง 12,388 ฟุต อย่าง “ภูเขาไฟฟูจิ” ว่ากำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่การท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยจุดที่เป็นปัญหามากที่สุด เป็นสถานีฐานแห่งที่ 5 ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "โกโกเมะ" ซึ่งตั้งอยู่ครึ่งทางขึ้นไปบนภูเขา และสามารถรองรับผู้มาเยือนได้มากถึงร้อยละ 90 ที่มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวภูเขาไฟแห่งนี้
ปัญหาที่ทำให้ทางการญี่ปุ่นตัดสินใจปิดการท่องเที่ยวชั่วคราว เพราะมรดกโลกฟูจิ กำลังได้รับการคุกคามของนักท่องเที่ยวที่นิยมขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วในรูปแบบภายในหนึ่งวัน ส่งผลให้มีการร้องขอความช่วยเหลือต่างๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญอย่างมาก แม้ทางการมีความพยายามอย่างหลากหลายในการเพิ่มจำนวนคนทำความสะอาด แต่ก็ยังคงต้องเจอกับห้องน้ำที่สกปรกและขยะเกลื่อนตามทางเดิน
นายโคทาโร นางาซากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดยามานาชิ ได้เสนอมาตรการที่เด็ดขาด ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามรถบัสและรถยนต์ที่มีผู้โดยสารขึ้นเขา โดยให้เปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟรางเบา และข้อเสนอดังกล่าวประกอบด้วยการปรับขึ้นค่าโดยสารไป-กลับอย่างมีนัยสำคัญเป็น 10,000 เยน โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น
นายมาซาตาเกะ อิซุมิ เจ้าหน้าที่จากจังหวัดยามานาชิ เน้นย้ำว่าการทิ้งขยะและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้น เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุด “ฟูจิกำลังเผชิญกับวิกฤตอย่างแท้จริง มันควบคุมไม่ได้และเรากลัวว่าภูเขาไฟฟูจิจะหมดความสวยงามในไม่ช้า จนไม่มีใครอยากปีนขึ้นไป” เขากล่าว
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline