อุทัยธานี - เจ้าของร้านอาหารชื่อดังเมืองอุทัยหอบหลักฐานโร่ขึ้นโรงพัก..แจ้ง ตร.ล่ามิจฉาชีพสุดแสบอ้างเป็น พนง.สั่งจองโต๊ะพร้อมเมนูชุดใหญ่ก่อนส่งสลิปปลอมให้ แถมหลอกสั่งไวน์ขวดละ 2 หมื่นให้อีก โชคดีเจ้าของร้านไหวตัวทันหวิดเสียเงินก้อนใหญ่
ร้านอาหารทุ่งเนินแจง ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งของ อ.เมืองอุทัยธานี ได้โพสต์ภาพหลักฐานพร้อมระบุว่า..เตือนภัยมิจฉาชีพมาในแบบลูกค้า ทำทีโทรศัพท์เข้ามาสั่งจองโต๊ะสำหรับ 20 คน พร้อมอาหารชุดใหญ่ ค่าใช้จ่ายจำนวนเงิน 14,362 บาท ก่อนใช้สลิปปลอมโอนเงินให้ ซ้ำให้ทางร้านสั่งซื้อไวน์ราคาแพงให้ 2 ขวด รวมเป็นเงินถึง 40,000 บาท
แต่เจ้าของร้านปฏิเสธการสั่งไวน์ให้ จึงถูกมิจฉาชีพรายนี้ยกเลิกการสั่งจองโต๊ะทันที แม้ครั้งนี้จะไม่เสียเงินก้อนใหญ่ แต่ทางร้านก็เสียหายในการจัดซื้อวัตถุดิบการทำอาหารที่ทางมิจฉาชีพรายนี้ได้สั่งทำไว้แล้วถึงหลักหมื่นบาทเช่นกัน..
และล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย. 66) นางสาวชฎามาส บัวสำลี อายุ 28 ปี และ นายเทียนชัย บัวสำลี สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน ได้เดินทางนำหลักฐานเข้ามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี หลังถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกทางร้านว่า ของจองโต๊ะ VIP และให้ช่วยจัดเลี้ยงชุดใหญ่ให้กับทางบริษัทแห่งหนึ่ง
นางสาวชฎามาสเล่าว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เวลา 10.53 น. มีชายคนหนึ่งใช้ชื่อว่า “แมน” อ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ใช้โทรศัพท์หมายเลข 06-2001-9846 โทร.มาจองโต๊ะกับที่ร้าน บอกว่าจะเดินทางมาพร้อมกับเจ้านายเพื่อจัดเลี้ยงพนักงานในวันที่ 16 กันยายน เวลา 19.00 น. รวม 20 คน จากนั้นก็ได้ทำการสั่งให้ทางร้านจัดโต๊ะไว้รอซึ่งเป็นห้องวีไอพี มีคาราโอเกะ
“นายแมนได้สอบถามเมนูอาหาร พร้อมกับขอไอดีไลน์เพื่อให้ส่งเมนูอาหารที่ต้องการจะสั่งให้ทางร้านดู ซึ่งรายการอาหารที่สั่งก็จะเป็นอาหารเซตใหญ่ เช่น กุ้งเผา ต้มยำไก่บ้าน ปลากะพงสามรส ต้มยำทะเลรวม และเมนูอื่นๆ รวมแล้ว 21 อย่าง ซึ่งทุกเมนูนั้นจะสั่งเป็นเมนูละ 2 จานด้วย”
หลังจากนั้นนายแมนก็ได้ขอเลขบัญชีของร้านเพื่อที่จะโอนเงินค่าอาหารที่สั่งไว้ล่วงหน้า เป็นจำนวนเงิน 14,362 บาท ก่อนส่งสลิปการโอนเงินมาให้ แต่ทางร้านได้เช็กแล้วว่าไม่มียอดเงินเข้ามา สอบถามนายแมนก็อ้างว่า..ยอดเงินดังกล่าวนั้นได้โอนออกไปจากบัญชีส่วนตัวของนายแมนแล้ว ถ้าเงินยังไม่เข้าบัญชีก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเวลา 19.00 น. จะนำเงินสดไปให้ที่ร้านอีกครั้ง ส่วนเงินที่โอนไปแล้วนั้น หากมียอดเข้าบัญชีทางร้านเมื่อไหร่ค่อยโอนคืนกลับมาให้อีกที
นางสาวชฎามาสบอกว่าตอนนั้นตนเองก็เริ่มเอะใจอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังคงกลัวว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะเสียลูกค้า ก็เลยให้ลูกน้องและกุ๊กซื้อวัตถุดิบและทำเมนูอาหารตามที่นายแมนสั่งเอาไว้รอ ซึ่งค่าวัตถุดิบรวมๆ แล้วประมาณ 10,000 บาท กระทั่งช่วงบ่าย (16 ก.ย.) นายแมนก็ได้แชตไลน์เข้ามาที่ร้านอีกครั้งว่า..ต้องการไวน์ด้วย พร้อมกับส่งรูปขวดไวน์ให้ดู 2 ขวด
ซึ่งตอนนั้นตนได้บอกกับนายแมนไปว่า ทางร้านหาซื้อให้ไม่ได้ และให้นายแมนนำไวน์เข้ามาดื่มเสริมในร้านเองได้เลย แต่นายแมนก็ได้ตอบกลับมาว่า ตนนั้นรู้จักกับบริษัทไวท์นี้เพราะซื้อให้เจ้านายอยู่บ่อยครั้งเวลาที่มีงานเลี้ยงของบริษัท จึงขอให้ทางร้านช่วยดำเนินการสั่งซื้อไวน์นี้ให้ก่อน พร้อมอ้างว่าตอนนี้ยุ่งไม่มีเวลาสั่งไวน์ได้ โดยให้ทางร้านช่วยทำการโอนเงินเพื่อสั่งซื้อไวน์ไปให้ก่อนในราคาขวดละประมาณ 20,000 บาท รวมกัน 2 ขวด ก็เป็นเงิน 40,000 บาท
นางสาวชฎามาสเล่าเพิ่มเติมว่า พอมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเริ่มมีพิรุธมากยิ่งขึ้น จึงได้บอกกับนายแมนไปว่าทางร้านไม่สามารถสั่งไวน์ที่ต้องการให้ได้ จากนั้นนายแมนก็ได้บอกว่า..ขอแคนเซิลการสั่งจองโต๊ะและยกเลิกเมนูที่สั่งทั้งหมดไปเลย ก่อนที่จะติดต่อนายแมนไม่ได้อีกทุกช่องทางที่เคยติดต่อมา ทำให้มั่นใจเลยว่าถูกมิจฉาชีพหลอกแล้ว เหมือนกับที่เป็นข่าวกันในช่วงนี้ จึงได้เข้ามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายต่อมิจฉาชีพรายนี้ พร้อมกับอยากที่จะเตือนภัยร้านค้า ร้านอาหาร ทุกร้านให้ระวังภัยในรูปแบบนี้ให้มากๆ ด้วย ไม่เช่นนั้นคงจะต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
ด้าน ร.ต.ท.สรไกร จักรแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำสำนวนคดีและแกะรอยติดตามตัวคนกระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับเตือนผู้ประกอบการร้านอาหารทุกร้าน ขอให้ระวังพวกต้มตุ๋นเหล่านี้ เพราะช่วงนี้กำลังระบาดหนักมาก