ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ร้านอาหารชื่อดังเมืองขอนแก่นเสียท่ามิจฉาชีพ อ้างเป็นพนักงานบริษัทใหญ่โทร.จองโต๊ะจัดเลี้ยงผู้ว่าฯ และข้าราชการระดับสูงในจังหวัด โดยส่งสลิปโอนเงินค่าอาหารแบบตั้งเวลาล่วงหน้าให้ทางร้านตายใจ ก่อนออกอุบายหลอกให้สำรองเงินซื้อไวน์เกรดพรีเมียมไว้รับรองแขกวีไอพี สุดท้ายถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 6 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับร้องเรียนจากนายนพดล ชัยศิริกุล อายุ 58 ปี เจ้าของร้านอาหาร “Lamai Jazz Bar & Bistro” ตั้งอยู่ถนนมะลิวัลย์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยนายนพดลได้นำไฟล์ภาพสลิปการโอนเงินผ่าน ธ.ก.ส. A-Mobile จำนวนเงิน 11,560 บาท จากเจ้าของบัญชีชื่อ บริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ของนายนพดล ชัยศิริกุล และบทสนทนากันทางแอปพลิเคชัน Line ระหว่างนายนพดล กับชายชื่อ “Nut” เป็นข้อความการสนทนาติดต่อขอจองโต๊ะอาหารเพื่อจัดงานเลี้ยงกับทางร้าน และบทสนทนาที่ชายชื่อนัท ได้ให้ทางเจ้าของร้านจัดหาไวน์คุณภาพดีและมีราคาแพง เพื่อเป็นของฝากและเป็นเครื่องดื่มสำหรับแขกของตัวเอง
โดยอ้างว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และข้าราชการระดับสูงในจังหวัดที่จะมากินเลี้ยงที่ร้าน ท้ายสุดนายนพดล เจ้าของร้านพลาดท่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพรายนี้ สูญเงินไปกว่า 660,000 บาท จึงต้องการนำเรื่องนี้ออกมาแจ้งเตือนผู้ประกอบการ ร้านอาหารต่างๆ ได้รู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพรายนี้กันอีก
นายนพดลเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกำลังดูแลลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่ภายในร้าน เวลาประมาณ 19.00 น. ได้มีลูกค้าผู้ชายโทรศัพท์เข้ามาติดต่อจองโต๊ะอาหาร จำนวน 25 ที่นั่ง บอกว่าจะมาจัดงานเลี้ยงในช่วงค่ำของวันที่ 30 ส.ค. พร้อมกับสั่งเมนูอาหาร จำนวน 5 เมนู เมนูละ 4 ที่ ซึ่งตนก็ได้ลงคิวและแจ้งให้พนักงานทราบว่ามีลูกค้าสั่งจองโต๊ะเอาไว้ ซึ่งก็เป็นไปตามระบบปกติของทางร้าน กระทั่งวันที่ 30 ส.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ชายรายนี้ได้ติดต่อเข้ามาทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยใช้ชื่อบัญชีไลน์ว่า “Nut” เพื่อขอยอดค่าอาหารที่สั่งกับทางร้านเอาไว้ ซึ่งเป็นเงินจำนวน 11,560 บาท
ตนจึงแจ้งยอดค่าอาหารไปให้ ผ่านไปราว 10 นาที ชายรายนี้ก็ส่งสลิปการโอนเงิน ชื่อบัญชี “บริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด” ตามจำนวนเงินค่าอาหาร จากบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.มาให้ตนเอง แต่บอกว่า ต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเงินถึงจะเข้าเพราะเป็นระบบของบริษัทฯ ระหว่างที่ตนรอเงินค่าอาหารเข้าบัญชี ชายรายนี้ก็ได้ทักแชตไลน์มาถามว่าที่ร้านมีไวน์บริการหรือไม่ ตนเองก็ตอบไปว่ามี พร้อมกับถ่ายภาพไวน์ยี่ห้อต่างๆ ของทางร้านไปให้ดู แต่ชายรายนี้กลับส่งรูปไวน์ยี่ห้อที่ต้องการกลับมาให้ตนเองดู ซึ่งเป็นไวน์ที่ทางร้านไม่มี
และตนก็ตอบไปว่า หากลูกค้าต้องการก็จะหาซื้อมาไว้บริการ แต่ทางร้านพยายามหาตามร้านในตัวเมืองขอนแก่นก็ไม่มีจำหน่าย เนื่องจากเป็นไวน์ที่มีราคาสูง ขวดละไม่ต่ำกว่า 60,000 บาท เมื่อชายรายดังกล่าวทราบว่าทางร้านหาไวน์ยี่ห้อที่ต้องการไม่ได้ จึงได้แนะนำร้านจำหน่ายไวน์ให้ โดยส่งลิงก์ร้านจำหน่ายไวน์ที่ตัวเองต้องการมาให้ทางไลน์
หลังจากนั้นไม่นานนักชายรายนี้ก็ได้ส่งภาพของไวน์ยี่ห้อต่างๆ เข้ามาในไลน์เรื่อยๆ พร้อมกับระบุราคาของไวน์แต่ละยี่ห้อ พร้อมกับบอกว่า ไวน์ยี่ห้อนี้ผู้ว่าฯ ขอนแก่นชอบ ไวน์ยี่ห้อนี้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้ชอบ ตนเองจึงกดลิงก์ร้านจำหน่ายไวน์ที่ชายรายนี้ส่งมาให้เพื่อเข้าไปดู และได้โทรศัพท์พูดคุยกับทางร้าน พร้อมกับสอบถามกับทางร้านว่าร้านไวน์เปิดจำหน่ายอยู่ส่วนไหนของตัวเมืองขอนแก่น ซึ่งทางร้านตอบกลับมาว่า ตั้งอยู่บริเวณบึงแก่นนคร เขตเทศบาลนครขอนแก่น
นายนพดลเล่าต่อว่า เมื่อตนเห็นว่าร้านจำหน่ายไวน์ที่ลูกค้าชายรายดังกล่าวแนะนำมาอยู่ไม่ไกลจากร้าน ตนเองจึงได้ส่งภาพไวน์ยี่ห้อที่ชายรายดังกล่าวส่งมาให้ไปให้ร้านจำหน่ายไวน์ดู ซึ่งทางร้านก็ตอบกลับมาว่ามีไวน์ยี่ห้อที่ต้องการ พร้อมกับแจ้งราคามาให้ ตนจึงแจ้งรายละเอียดกลับไปให้ชายที่ติดต่อจองโต๊ะทราบ แต่ชายรายนี้ได้บอกกับตนเองว่าให้สำรองจ่ายไปก่อน เดี๋ยวไปถึงร้านจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ด้วยความที่เห็นว่าบุคคลที่จะมาร่วมงานเลี้ยงเป็นข้าราชการชั้นสูง ระดับผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ รวมทั้งสลิปการโอนเงินล่วงหน้าที่ชื่อบัญชีเป็นของบริษัทที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ในขอนแก่น ซ้ำคนร้ายได้ออกอุบายว่าแขกที่จะมาที่ร้านเป็นระดับผู้ว่าฯ และกำลังจะเดินทางมาถึงร้านในอีกไม่นาน ทำให้ตนหลงเชื่อ
จึงสั่งซื้อไวน์ยี่ห้อต่างๆ ตามที่คนร้ายสั่งให้สำรองเงินซื้อมาให้หลายขวด มีราคาตั้งแต่ขวดละ 65,000-130,000 บาท ก่อนจะนัดหมายให้ร้านไวน์นำไวน์มาส่งที่ร้านให้ โดยทางร้านแจ้งว่าใช้เวลาในการนำส่งไม่เกิน 20 นาที ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่ชายที่จองโต๊ะบอกว่าทีมงานผู้ว่าฯ ขอนแก่นจะมาถึงร้าน หลังโอนเงินเสร็จตนจึงออกไปยืนรอที่หน้าร้าน จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 20 นาทีร้านไวน์ก็ยังมาไม่ถึง
ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามร้านไวน์ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ และเมื่อโทร.ไปหาชายที่มาจองโต๊ะกับทางร้านก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน จึงลองให้เพื่อนที่อยู่ด้วยกันโทร.ดูก็พบว่า โทร.ติดแต่ไม่รับสาย แม้จะพยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงแน่นอน รวมเป็นเงินที่โอนไป จำนวน 660,000 บาท
นายนพดลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าสลิปโอนเงินค่าอาหารที่คนร้ายส่งมาที่มีการใช้ชื่อบัญชีบริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด เป็นสลิปปลอม และหมายเลขโทรศัพท์ที่คนร้ายติดต่อมาจองโต๊ะและสั่งซื้อไวน์นั้นปรากฏสัญญาณอยู่บริเวณตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา จึงมั่นใจว่าตนเองถูกหลอกแน่นอน และที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในวันนี้ก็เพื่อต้องการแจ้งเตือนร้านอาหาร ห้างร้าน และประชาชนให้ระวังตัวเองให้ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ รวมทั้งวอนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมตัวกลุ่มมิจฉาชีพที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
