ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เด็กพิเศษวัย 19 ปี ถูกตำรวจไซเบอร์รวบตัวขังโรงพัก 2 คืน หลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง
ด้านเจ้าตัวเผยถูกเพื่อนบ้านล่อลวงไปเปิดบัญชีแบงก์กสิกรไทย มารู้ว่าเป็นบัญชีม้าตอนถูกจับเพราะมีผู้เสียหายโอนเงินเข้า 150,000 บาท
น่าเห็นใจเป็นอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายพนมวัน โม้ลีย์ อายุ 19 ปีเด็กพิเศษและครอบครัวชาวขอนแก่น หลังจากนายพนมวันตกเป็นผู้ต้องหาที่ 5 ในคดี “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” เปิดบัญชีม้าให้กับมิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือล่อลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินเข้าบัญชี โดยศาลจังหวัดขอนแก่นได้นัดเข้าไต่สวนนัดแรกวันที่ 28 ส.ค. 66 นี้
นายพนมวัน โม้ลีย์ เล่าว่า ตัวเขาเองจำไม่ได้ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอะไร แต่ได้ไปกับเพื่อนบ้านหญิง อายุ 19 ปี เพื่อนบ้านรายนี้บอกให้ตนนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีที่ธนาคารกสิกรไทย หลังจากเปิดบัญชีเสร็จ เพื่อนบ้านหญิงคนดังกล่าวก็พากลับมาส่งที่บ้าน นับแต่วันนั้นก็ไม่เจอกับเพื่อนบ้านอีก กระทั่งต่อมาวันที่ 13 ส.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เดินทางมาหาที่บ้าน ก่อนจะถูกควบคุมไปที่สถานีตำรวจเมืองไหม อ.เมือง จ.ขอนแก่น และถูกคุมขังเป็นเวลา 2 วัน
ช่วงระหว่างที่ถูกควบคุมตัวนั้น ตำรวจก็ได้แต่ถามว่าได้ดื่มเหล้าและยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ้างหรือไม่ ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมาในวันที่ 15 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา
นางสาวรัตนกร ยอดโพธิ์ อายุ 24 ปี น้าสาวของนายพนมวัน เล่าเสริมว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 66 ที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ได้นำหมายศาลมาที่บ้าน โดยแจ้งว่ามาจับกุมตัวนายพนมวัน โม้ลีย์ ผู้ต้องหาฉ้อโกงทรัพย์ด้วยการเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายได้โอนเงินจำนวน 150,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยที่หลานของตนไปเปิดไว้ หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวหลานชายไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองไหม และจะควบคุมตัวไปฝากขังที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร
จากนั้นได้คุยกับตำรวจว่าหลานชายของตนเองเป็นเด็กพิเศษ และที่บ้านยังต้องดูแลพ่อแม่และหลานจึงขอให้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองไหม เพราะใกล้บ้าน ตำรวจจึงควบคุมตัวหลานชายไว้บริเวณโรงพัก ไม่ได้กักไว้ในห้องขัง เป็นเวลา 2 วัน จากนั้น ตนจึงได้จ้างทนายความเขียนคำอุทธรณ์พร้อมกับนำเอกสาร เพื่อมาประกันตัวหลานชายออกมาที่บ้าน
“ตอนนี้รอวันที่ 28 ส.ค.นี้ ในช่วงเช้าที่ศาลจังหวัดขอนแก่นจะเรียกไปสอบพยานไต่สวนคดี เมื่อพูดคุยจึงทราบว่ามีเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ได้ชักชวนให้หลานไปเปิดบัญชีกับธนาคารกสิกรไทย โดยฉันและพ่อก็ไม่มีใครทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมีตำรวจมาควบคุมตัว”