xs
xsm
sm
md
lg

ชลประทาน 12 เตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงเกิดอุทกภัยหลายพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยนาท - ชลประทาน 12 เตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น หลังจังหวัดตอนบนลุ่มเจ้าพระยา เสี่ยงเกิดอุทกภัยหลายพื้นที่

วันนี้ (17 ก.ย.) นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ออกหนังสือแจ้งสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 1/2566 ลงวันที่ 16 กันยายน 2566 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1-1.5 เมตร

เนื่องจากตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝน คาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีความเสี่ยงอุทกภัยในช่วงวันที่ 17-21 กันยายน 2566 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราที่เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลวันที่ 17 กันยายน 2566 ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 665 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเก็บกักเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยกตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ +16.50 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร แต่ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในตลิ่งลำน้ำ

อย่างไรก็ตาม สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลกระทบให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น