นครสวรรค์ - ฝนน้อยกว่าปีกลาย 40-50% ทำระดับน้ำบึงบอระเพ็ดแห้งหนักเข้าขั้นวิกฤตทั้งลุ่มน้ำ..สทนช.แนะจังหวัดเร่งทำแผนของบกลาง “ครม.เศรษฐา” นัดแรก สูบน้ำน่านเติมบึงให้น้ำอยู่ระดับ 60 ล้าน ลบ.ม.ภายในสิ้นกันยาฯ ไม่พอ สิ้นตุลาฯ ต้องมี 100 ล้าน ลบ.ม.
ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำยังคงต้องเดินเครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าบึงบอระเพ็ดอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้ทำการสูบน้ำไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากระดับน้ำในบึงแห้งลง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทั้งในส่วนของบึงเอง และลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วย
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ระบุว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากปีนี้ฝนตกน้อยกว่าปีที่แล้วมากถึง 40-50% ทำให้ระดับน้ำในบึงบอระเพ็ดลดต่ำลงมาก ถ้าเราปล่อยให้น้ำในบึงฯ ลดต่ำก็จะเกิดวิกฤตทั้งเรื่องน้ำอุปโภค บริโภค รวมทั้งกระทบต่อระบบนิเวศ พันธุ์ปลาต่างๆ ส่งผลทำให้ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำโดยรอบที่เคยอุดมสมบูรณ์ได้รับผลกระทบไปด้วย
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องวิกฤต ทางเลขาธิการ สทนช.ได้ให้คำแนะนำเร่งทำแผนปฏิบัติการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี รัฐบาลเศรษฐา ในโอกาสแรกที่มีการประชุม ครม. ของบกลางมาจ่ายค่าไฟสำหรับสูบน้ำน่านเข้าบึงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายทำให้ระดับน้ำในบึงเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้าน ลบ.ม.ภายในวันที่ 30 กันยายน 66 และเพื่อรักษาระบบนิเวศให้ได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 67 จะต้องสูบน้ำเติมบึงบอระเพ็ด ให้เพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ลบ.ม.ภายในสิ้นเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ ล่าสุดหลังการสูบน้ำน่านเข้าสู่บึงบอระเพ็ดประกอบกับน้ำฝนที่ตกลงมาเล็กน้อยในช่วงนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มจากเดิม +20.75 ม.รทก. เพิ่มขึ้น 0.06 ม. มีปริมาตรน้ำ 9.76 ล้าน ลบ.ม. (4.38%) เพิ่มขึ้น 0.73 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการสูบน้ำในรอบนี้จะดำเนินการสูบไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน 2566 เนื่องจากเป็นการสูบตามงบประมาณที่มีจำกัด
