กาญจนบุรี - ส.ส.เพื่อไทย เขต 4 จ.กาญจน์ แจงผ่านเฟซบุ๊ก เหตุได้เป็น ส.ส.เพราะผลงานส่วนตัวล้วนๆ ชี้ไม่เคยอยู่ใต้ใคร ขอยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มและสังกัดของใครทั้งนั้น
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เจ้าของวลี #น้ำกินน้ำใช้ต้องไม่ขาดแคลน และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย ได้เขียนข้อความชี้แจงลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมได้รับคะแนนจากการเลือกตั้ง 45,812 คะแนน เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าของวลี #น้ำกินน้ำใช้ต้องไม่ขาดแคลน ขอให้หยุดเผยแพร่ข่าวที่เป็นเท็จเกี่ยวกับโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีจาก ส.ส. จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย 4 คน
โดยหลายสำนักพิมพ์ระบุว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้ ส.ส. พรรคเพื่อไทย จำนวน 4 คน และได้โควตาเก้าอี้ รมช.คมนาคมนั้น ผมเป็นหนึ่งใน ส.ส. 4 คนนั้น ผมขอยืนยันว่าตัวผมไม่ได้อยู่ภายใต้กลุ่มใครทั้งนั้น ตั้งแต่ก่อนสมัคร ส.ส. ระหว่างการหาเสียง และปัจจุบันได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. มาเพราะผมทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องกับประชาชน โดยชูนโยบายพรรคเพื่อไทย และนโยบายน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มและสังกัดของใครทั้งนั้น ดังนั้น ขอให้อย่าเอาผมไปแอบอ้าง เขตเลือกตั้งผมทุรกันดาร ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งในเขตผมอย่างแน่นอนครับ”
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 5 เขต มี ส.ส.ได้ 5 คน สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ชนะการเลือกตั้งนั้นถือว่าเป็นเขตพื้นที่ที่มีความแห้งแล้งมากที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี จนถูกขนานนามว่า ภาคอีสานจังหวัดกาญจนบุรี หรืออีสานภาคตะวันตก อันประกอบไปด้วย อ.ห้วยกระเจา อ.บ่อพลอย อ.เลาขวัญ และอำเภอหนองปรือ
ขณะที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สร้างผลงานเอาไว้อย่างโดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ จนทำให้พี่น้องประชาชนเขต 4 ยอมรับคือการค้นพบแหล่งน้ำพุโซดาบาดาล เพื่อหาแหล่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แห้งแล้งซ้ำซาก ตามโครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บน้ำในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงการซับซ้อน
โดยสามารถเจาะบาดาลในพื้นที่หมู่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จำนวน 4 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ จำนวน 52 ลบ.ม./ชม. และที่หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจาอีก จำนวน 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.ม./ชม. คิดปริมาตรรวม 1,700,000 กว่า ลบ.ม./ปี ประชากรจะได้รับประโยชน์ จำนวน 15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่ ที่สำคัญพุโซดาบาดาลที่ค้นพบรสชาติของน้ำซ่าคล้ายโซดา ซึ่งถือว่าเป็นบ่อบาดาลแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย