อุดรธานี -"นายกฯ เดินทางไปดูสถานที่จัดงานพืชสวนโลกสวนสาธารณะหนองแด ยินดีที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานแต่ต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อส่งผลต่อการท่องเที่ยวระยะยาว แต่ย้ำการใช้งบต้องโปร่งใส รับไม่ได้งบงอกเท่าตัว จาก 2,500 ล้านขอเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท รัฐบาลมีภาระต้องใช้จ่ายเงินเยอะ ด้านนายกอบจ.รีบลุกชี้แจง “ผมไม่ใช่เจ้าภาพรับงบมา”
วันนี้ (8 ก.ย.) เวลา 14.15 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เดินทางเข้าสักการะศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอุดรธานี ในโอกาสเดินทางมาติดตามความคืบหน้าการเตรียมการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2569 ที่จังหวัดอุดรธานีได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการจัดงาน ขณะที่ชาว จ.อุดรธานีแห่ต้อนรับขอถ่ายรูปและโอบกอดนายกฯ ด้วยความดีใจ
จากนั้นเวลา 15.30 น. นายเศรษฐา พร้อมคณะได้เดินทางไปที่สวนสาธารณะหนองแด ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานพืชสวนโลกในปี 2569 โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวต้อนรับ
นายวันชัยกล่าวรายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 อนุมัติหลักการดำเนินงานโครงการประมูลสิทธิงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 และมีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 อนุมัติกรอบงบประมาณ (2,500 ล้านบาท) และผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารการยื่นเสนอตัวประมูลสิทธิ์งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 และสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้ประกาศการคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้ประเทศไทย (จังหวัดอุดรธานี) เป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 (ระดับ B)
โดยมีกำหนดจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2570 รวม 134 วัน ณ บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ไทย ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ โดยในการเตรียมการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ภายใต้แนวคิด วิถีชีวิต สายน้ำและพืชพรรณ บนเนื้อที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็น พื้นน้ำ 400 ไร่ และพื้นดิน 630 ไร่
ทางจังหวัดมีความพร้อมในการจัดแสดงความหลากหลายของพืชพรรณ นำเสนอความสมดุล และประโยชน์ของความหลากหลายของทรัพยากรในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลและนวัตกรรมด้านพืชสวนแก่ผู้มาเยือน นอกจากนี้ การจัดงานยังสร้างรายได้จำนวนมหาศาล และสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่อีกด้วย
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สวัสดีพี่น้องชาวอุดรธานี พี่น้องทหาร ตำรวจ วันนี้มาถึงอุดรธานี มาฟังบรรยายสรุปคร่าวๆ จากนายกอบจ.อุดรธานี ผมขอพูดในภาพรวม เรื่องแรก จ.อุดรธานีถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ เป็นหัวเมืองสำคัญในการพัฒนาภาคอีสานตอนบนให้เจริญเติบโตไปได้ สนามบินอุดรธานีถือว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ มีมูลค่าสูง มีผลกำไรดี มีเที่ยวบินหลายๆ เที่ยว และเป็นสนามบินนานาชาติด้วย ที่พูดแบบนี้เพราะงานพืชสวนโลกเพราะต้องเชื่อมโยงกับการใช้โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ
ถือว่าอุดรธานีได้เปรียบมาก หากจะให้จังหวัดอุดรธานีเจริญอย่างยั่งยืน การจัดงานพืชสวนโลกที่ จ.อุดรธานีถือเป็นงานอีเวนต์แรกระดับโลกด้วย ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ และชาวอีสานตอนบนอย่างมาก เราต้องทำให้ได้ ถ้าเกิดเราทำได้ดี ก็จะทำให้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนของ จ.อุดรธานี ซึ่งก็คล้องจองกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ภายใต้รัฐบาลของพี่น้องประชาชนทั้ง 11 พรรค
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า อีก 3 ปีก็จะถึงการจัดงานแล้ว ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากให้พี่น้องจากทั่วโลกที่จะมาเที่ยวในงานพืชสวนโลกผิดหวัง เรามีเวลา 2-3 ปีที่จะกำจัดปัญหายาเสพติดให้สิ้นซากลงไป ส่วนเรื่องการสร้างสถานที่จัดงานพืชสวนโลก ได้พูดคุยกับนายก อบจ. เป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ ผมเรียนตรงๆ ว่าไม่ได้มาหาเสียง มาพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ให้เข้าใจถึงภารกิจของรัฐบาลของประชาชน ที่ต้องดูแลหลายๆ ภาคส่วน ปัญหาของรัฐบาลมีเยอะ ปัญหาแรกที่ผมมีเลยก็คือว่า งบประมาณที่ตั้งไว้ 2,500 ล้าน ท่านขอเพิ่มอีก 3,000 ล้าน มันกระโดดไปได้ไง 3,000 ล้าน
“เราจะเอางบมาจากไหน มีเรื่องอื่นๆ ที่รัฐบาลมีภาระต้องทำ ผมยินดีที่เราจะได้จัดงานพืชสวนโลกเพราะเป็นงานระดับโลก แต่การที่งบประมาณงอกไปกว่า 1 เท่าตัว ผมว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็มีงบประมาณจำกัด เราต้องบริหารหลายๆ ภาคส่วน เราต้องมีวินัยการเงินการคลังที่ดีและถูกต้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผมยืนยันต้องมีการบริหารการจัดการให้อยู่ภายใต้กรอบงบประมาณที่เราพูดกันไว้” นายเศรษฐากล่าว
ขณะที่นายวิเชียร ขาวขำ นาย ก อบจ.อุดรธานี ได้ชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี ว่า "จริงๆ แล้วหน่วยงานในพื้นที่การบริหารงบประมาณ 2,500 ล้านบาทก็น่าจะอยู่ในตรงนี้ แต่พอคณะกรรมการฯ ให้คำแนะนำก็ส่งเรื่องไปคิดว่าเป็นภาระเหมือนกันตามที่นายกฯ พูด แต่เชื่อว่าทำได้ ผมเข้าใจว่าตามที่ท่านแจ้งว่าของบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็คงยากเหมือนกัน เราขอไปคุยเรื่องงบประมาณให้ลงไปในทางที่ถูกต้อง ทาง อบจ.ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องงบประมาณเลย เงินบาทเดียวก็ไม่ได้มา อบจ. อบจ.ยังควักเงิน 20 ล้านซื้อต้นทองอุไรสีแสดได้สองแสนต้นยังไม่ครบ 1 ล้านต้น และก็ไม่รู้ว่างบประมาณ 2,500 ล้านบาทไปลงไหนบ้าง ไม่ลง อบจ.อุดรธานีแน่นอน"
นายวิเชียรกล่าวต่ออีกว่า มีอดีต ส.ส.ไปร้องเรียน ป.ป.ช.ว่ามีการทุจริตใน 55 ล้าน พวกเราท้าเลย และบอกว่าเอางบอีก 700 ล้านไปศึกษาดูงานต่างประเทศ พวกเราเป็นจำเลยเลย เรายังไม่ได้สักบาท ตอนผู้ว่าฯ ไปดูไบและโปรตุเกส 2 ครั้ง ใช้เงินบริจาคจากหอการค้า อยากให้เชิญมาชี้แจงถ่ายทอดสดเลยว่า ใครพูดจริงใครพูดเท็จ กราบเรียน ฯพณฯ เพื่อความสบายใจ พวกเราไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
ขณะที่นายเศรษฐาพูดแทรกขึ้นมาว่า ไม่ได้บอกว่าผลประโยชน์ทับซ้อน แต่อยากให้พยายามทำให้อยู่ในงบประมาณให้ได้ เพราะว่าภาระประเทศชาติหนักอยู่ เรื่องภัยแล้ง การสร้างฝาย
พอนายกฯ พูดมาถึงตอนนี้ นายวิเชียรก็บอกว่า "ให้ท่านผู้ว่าฯ และท่านอธิบดีมารับไป ผมไม่เกี่ยว ท่านพูดเหมือนผมเป็นเจ้าภาพ ผมเป็นอย่างเดียว เป็นประธานคณะทำงานให้ท่านผู้ว่าฯ ด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด เหมือนว่าผมทำทุกอย่าง เพราะว่าท่านผู้ว่าฯ สั่ง สั่งผม ผมก็ทำครับ"