เชียงใหม่ - สาวสุโขทัยโพสต์วิงวอนขอช่วยต่อชีวิตน้องสาววัย 16 ปี ล้มป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวนอนไอซียู รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อรอการปลูกถ่ายไขสันหลังจากพี่สาวช่วยทำการรักษา แต่เกิดอาการแทรกซ้อนที่ตับและจำเป็นต้องใช้ยานำเข้าจากต่างประเทศยื้อลมหายใจ เสียค่าใช้จ่ายสูงถึงสัปดาห์ละ 8 แสน ขณะที่ครอบครัวเป็นชาวนาฐานะยากจนทำหมดหนทาง จนตัดสินใจหวังพึ่งโลกออนไลน์
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sasithon Juaijaew" โพสต์ภาพน้องสาวที่ป่วยอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมข้อความช่วยเหลือว่า "ขออนุญาตพื้นที่บน Facebook เป็นสื่อในการหาค่าบริจาคค่ายาให้กับน้องสาว เนื่องจากน้องสาวได้เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แล้วได้ทำการปลูกถ่ายไขกระดูก ณ ตอนนี้น้องได้มีภาวะแทรกซ้อนตอนได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก คือมีภาวะค่าตับสูง ตับโต ท้องโตมีน้ำในท้อง ตอนนี้หมอบอกว่าต้องใช้ยารักษาเฉพาะจากต่างประเทศเพื่อที่จะให้น้องได้อยู่ต่อ ค่ายาอยู่ที่ 800,000 บาท เนื่องจากทางบ้านไม่มีเงินมาก เลยขอเปิดรับบริจาคเพื่อที่จะต่อชีวิตน้อง ตอนนี้น้องรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ สามารถตรวจสอบได้ น้องชื่อ น.ส.ศรีรัตน์ เจื้อยแจ้ว อายุ 16 ปี เป็นผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูก เลขบัญชี 7800218377 ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชีนายสำราญ เจื้อยแจ้ว (พ่อ) ขอบคุณค่ะ สอบถามรายละเอียดได้ 0834041014" ซึ่งมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (30 ส.ค. 66) นางสาวศศิธร เจื้อยแจ้ว อายุ 26 ปี ตำบลวังน้ำขาว อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sasithon Juaijaew" เปิดเผยว่า โพสต์เรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 66 เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับน้องสาวที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และตัวเองเฝ้าอยู่อย่างใกล้ชิด โดยอาการป่วยของน้องเริ่มต้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจากเด็กสาวปกติเรียน ปวส.ปี 2 ที่จังหวัดสุโขทัย เริ่มล้มป่วยด้วยอาการแปลกๆ หลายอย่าง และมีอาการปวดศีรษะหนักขึ้นทุกครั้ง จนถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลในจังหวัดสุโขทัยไปจังหวัดอุตรดิตถ์และแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จึงต้องใช้สิทธิบัตรทอง รับการรักษาโดยให้เคมีบำบัดสุดท้ายต้องรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งตนเองต้องกลับจากต่างประเทศที่ไปทำงานเป็นแรงงาน เพื่อมาปลูกถ่ายไขกระดูกให้น้องสาว ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ การปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นไปด้วยดี อาการมะเร็งเริ่มดีขึ้นค่าเม็ดเลือดดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามกลับพบว่ามีอาการแทรกซ้อนคือภาวะตับจนทำวันนี้มีอาการท้องบวมต้องดูดน้ำจากช่องท้อง และน้องรับการดูแลในห้องปลอดเชื้อตลอดเวลา ซึ่งหนึ่งในหนทางที่จะช่วยยื้อชีวิตคือการรักษาและฟื้นฟูตับ
ทั้งนี้แพทย์บอกว่าต้องใช้ยาจากต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ที่สัปดาห์ละ 8 แสนบาท แต่ก็ต้องรักษาไปตามอาการซึ่งไม่รู้ว่าต้องรักษาต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ทางครอบครัวตนเองเป็นครอบครัวชาวนามีหนี้สินอยู่ไปทำงานรับจ้างที่ต่างประเทศกับแม่ซึ่งไปเป็นแรงงานก็ต้องหาเงินส่งมาใช้หนี้ทั้งหมด จึงหมดหนทางที่จะหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มารักษาน้อง จึงได้ตัดสินใจโพสต์แชร์เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากผู้ที่มีน้ำใจ ผ่านมาสองวันพบว่ามีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวและมีผู้ที่ช่วยโอนเงินมาช่วยส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักและญาติๆ ประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ ตอนนี้ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่จะมาช่วยรักษาน้องให้หาย ทุกวันนี้ตนเองก็ต้องออกจากงานกลับมาดูแลน้อง พ่อก็ยังคงทำนา ส่วนแม่เตรียมที่จะกลับมาดูอาการน้องสาวในเร็วๆ นี้ จึงอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีน้ำใจเพื่อต่อชีวิตของน้อง โดยผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีหมายเลข 7800218377 ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชีนายสำราญ เจื้อยแจ้ว (พ่อ)