“แพทองธาร” เผยอาการ “พ่อทักษิณ” เครียด-อ่อนเพลีย เชื่อยังปรับตัวไม่ได้ ที่บอกน่าห่วง เพราะเคยติดโควิดเข้าไอซียู 9 วัน ยันไม่เคยขอย้าย รพ.เอกชน เผย แอร์ห้องพักซ่อมแล้ว ให้เจ้าตัวตัดสินใจเองเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเปิดเผยว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับซอฟต์เพาเวอร์ที่เราจะดำเนินการต่อ ทันทีที่มีรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
น.ส.แพทองธาร ยังได้เปิดเผยถึงการเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และบิดาของ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 28-29 ส.ค. 66 ด้วยว่า ตอนนี้ นายทักษิณ อ่อนเพลีย เห็นได้ตั้งแต่วันที่เดินทางมาเมืองไทย ไม่ได้สดชื่นเหมือนเดิม ส่วนตัวก็เข้าใจ เพราะเป็น 17 ปี ที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย และคงจะมีอาการเครียดพอสมควร และเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 ส.ค.) ที่ไปเจอ ก็เห็นว่าท่านมีอาการอ่อนเพลีย
“ตั้งแต่ 22 ส.ค. 66 วันที่ท่านเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ครอบครัวเห็นว่า ท่านเครียด และในคืนวันเดียวกัน ครอบครัวก็ทราบพร้อมสื่อว่าคุณพ่อถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจ” น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ที่บอกว่า น่าห่วง เพราะ เมื่อปี 2020 นายทักษิณ ติดเชื้อโควิดตั้งแต่รุ่นอู่ฮั่น มีอาการหนักมาก เข้าห้องไอซียูไป 9 วัน รวมเวลาอยู่โรงพยาบาลไป 1 เดือน เมื่อออกมาน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม ตอนนี้ก็ยังมีจุดอยู่ที่ปอด ซึ่ง นายทักษิณ ก็พยายามออกกำลังกายให้ฟื้นตัว ซึ่งถือว่ากลับมาได้เยอะแล้ว แต่สำหรับคนอายุ 74 ปี และบวกกับความเครียด แต่โดยรวมคุณพ่อดีใจที่ได้เจอกับตน แต่ยอมรับว่ามีความเครียดและเหนื่อย
“คุณพ่อก็ยังเครียด คงเพราะมีความเปลี่ยนแปลง ตอนที่อยู่เมืองนอกสามารถไปไหนได้ และไม่ต้องเป็นคนอายุ 74 ปี แต่ใครก็ตามหากต้องเปลี่ยนที่อยู่ ต่อให้ไม่ใช่ราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาล การเปลี่ยนแปลงทำให้มีความรู้สึก ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงคุณพ่อ” น.ส.แพทองธาร ระบุ
เมื่อถามว่า อาการนายทักษิณ จำเป็นต้องย้ายตัวออกมาที่โรงพยาบาลเอกชนตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวปฏิเสธ โดยระบุว่า โรงพยาบาลตำรวจมีแพทย์เก่งๆ เยอะมาก และเราไม่ได้ขอย้ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า ทางแพทย์ได้ประเมินหรือไม่ว่าต้องใช้เวลารักษาตัวนานเท่าใด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตามที่ได้สอบถามกับทางแพทย์ ยังไม่มีความชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
เมื่อถามถึงกรณีที่สังคมไม่เชื่อว่า นายทักษิณ ป่วยจริง รู้สึกอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเสียใจ หรือไม่เสียใจ แต่ตนเป็นห่วง นายทักษิณ รวมถึงมีคนจำนวนมากที่เป็นห่วงท่านด้วน
เมื่อถามถึงสภาพห้องพักของนายทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ห้องนายทักษิณ อยู่ฝั่งที่มองไปเห็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นห้องปกติ ส่วนที่มีข่าวว่าเครื่องปรับอากาศเสีย ตอนนี้ซ่อมแล้ว
เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกับนายทักษิณเป็นห่วงเรื่องอะไรพิเศษหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องหัวใจ ส่วนเรื่องปอดเป็นเรื่องเดิมที่เป็นอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราให้เป็นดุลพินิจของ นายทักษิณ จะดำนเนินการหรือไม่ และเมื่อใด
เมื่อถามว่า กระบวนการดังกล่าวสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันที่กลับมาเมืองไทย ติดขัดอะไรหรือไม่ถึงยังไม่ดำเนินการ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีอะไรติดขัด แต่การร่างขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องของนายทักษิณที่จะเลือกเวลา และทำรายละเอียดต่างๆ ตามกระบวนการ นายทักษิณ ทำคนเดียว ตนไม่ทราบรายละเอียด