กาฬสินธุ์ - ฝ่ายปกครองอำเภอท่าคันโทสนธิกำลังหน่วยรักษาป่าที่ 4 กส.4 (ภูพระ) และตำรวจ สภ.ท่าคันโท จับมอดไม้ลักลอบตัดไม้ประดู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงมูล ยึดรถเครนบรรทุกไม้พร้อมเลื่อยยนต์และไม้ของกลาง ขณะที่ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งกวดขันแก๊งมอดไม้ ใครเอี่ยวสั่งฟันไม่เลี้ยง
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอท่าคันโท และหน่วยรักษาป่าที่ 4 กส.4 (ภูพระ) ว่าเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบตัดไม้บนพื้นที่ภูโน ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงมูล (ภูโน) ห่างจากหมู่บ้านนาคำน้อยไปทางทิศเหนือหมู่บ้านประมาณ 4.5 กม. เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังออกตรวจตามที่ได้รับแจ้ง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนหมายเลข 83-5965 ขอนแก่น พร้อมติดตั้งเครนตามที่ได้รับแจ้ง บรรทุกไม้ประดู่ จำนวน 4 ท่อนลักษณะเพิ่งถูกตัด ใกล้กันพบตอไม้ประดู่ที่ถูกตัด พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังพบชาย 3 คนที่กำลังลำเลียงท่อนไม้ประดู่ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบและจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง โดยตัดเพื่อที่จะนำไปจำหน่ายต่อ
จากการตรวจสอบหลักฐานประจำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายคงเดช ภูทะวัง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์, นายวิบูลย์ ภูชนะ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ และนายสวัสดิ์ วงษ์รินยอง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 11 บ้านหนองกบ ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนการป้องกันเหตุลักลอบตัดไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ตามพื้นที่ต่างๆ ใน จ.กาฬสินธุ์นั้น ได้ออกคำสั่งทางการปกครองให้เจ้าหน้าที่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายคุมเข้มป้องกัน และกวดขันแก๊งมอดไม้ให้สิ้นไปจาก จ.กาฬสินธุ์อย่างเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามวินัยและอาญาโดยไม่มีการอุทธรณ์
กรณีลักลอบตัดไม้ประดู่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงมูลครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่าจากกรณีพบเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงใน จ.กาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง และยังไม่สามารถจับกุมขบวนการมอดไม้ได้ ขณะที่ฝ่ายปกครองป้องกัน จัดเวรยามอย่างเข้มข้น จึงเป็นสาเหตุให้แก๊งมอดไม้หันไปตัดไม้ประดู่ตามใบสั่งนายทุนแทน อย่างกรณีที่จับผู้ต้องหา 3 รายในครั้งนี้
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนสารภาพว่าได้ขึ้นมาตัดไม้ประดู่ในบริเวณดังกล่าวได้ 6 วันแล้ว เพื่อจะนำไปจำหน่ายให้ผู้ที่จะรับซื้อต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 13 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
มาตรา 69 ฐาน ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดต่อ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว