กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งสอบด่วน เหตุไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายลอยนวล หลังขนย้ายไม้พะยูงของกลางที่ยึดได้นำมาพักไว้ลานหน้าสำนักงานเทศบาลอิตื้อ 10 วัน กลับถูกมือดีฉกหายล่องหน ซ้ำกล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ พ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวล รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่หาเบาะแสไม้พะยูงของกลางหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าไม้พะยูงของกลาง 6-7 ท่อน ประมาณ 4 คิว คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท สูญหายจากสถานที่จัดเก็บไม้ บริเวณลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00-19.00 น.ของวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สอบถามข้อมูลกับนายบรรชา ชัยสีหา ปลัดเทศบาลตำบลอิตื้อ, นางสาวอชิรญาณ์ ภูครองนาค รองนายก ทต.อิตื้อ และนายสมพงษ์ ภูครองหิน เลขานุการนายก ทต.อิตื้อ จากนั้นลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดพักไม้ ซึ่งพบเพียงร่องรอยไม้พะยูงของกลางถูกนำมาวาง และพบเพียงเศษแก่นไม้และเปลือกไม้เป็นหลักฐานเท่านั้น
นางสาวอชิรญาณ์ ภูครองนาค รองนายกเทศมนตรีตำบลอิตื้อ กล่าวว่า เหตุไม้พะยูงของกลางหายนั้น ตนเพิ่งทราบเมื่อเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกหลังหยุดยาวช่วงเข้าพรรษา ซึ่งก่อนที่ท่อนไม้พะยูงจะถูกขนย้ายมาวางกองไว้ที่บริเวณลานหน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อนั้น ไม้พะยูงต้นดังกล่าวเดิมอยู่ในพื้นที่ป่าหนองหญ้าม้า สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ ในความรับผิดชอบของธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายลักลอบตัดคืนวันที่ 25 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยตัดส่วนลำต้นไปประมาณ 2 เมตร หลังเกิดเหตุทราบว่าเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูงแล้ว
จากนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนายก ทต.อิตื้อ พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ผู้นำชุมชนได้ร่วมกันตรวจสอบ และมีมติให้ขนย้ายไม้ของกลางส่วนที่เหลือมาเก็บรักษาไว้ที่บริเวณลานหน้าเสาธงภายในสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ มาเก็บรักษาประมาณ 10 วัน ช่วงกลางคืนจะมีผู้นำชุมชนมาเฝ้าเพื่อป้องกันเหตุลักขโมย แต่เพิ่งมารู้เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาว่าไม้ของกลางสูญหายไป
ด้านนายอำนาจ ทองจีน พนักงานราชการสถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าคืนเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงนั้นเป็นคืนวันที่ 25 ก.ค. 66 ซึ่งมีฝนตกหนัก จึงไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ จุดที่ไม้พะยูงต้นดังกล่าวถูกตัดห่างจากที่พักประมาณ 80 เมตร และอยู่ติดถนน ตอนเช้าของวันที่ 26 ก.ค. 66 ตนเดินสำรวจพื้นที่พบว่าไม้พะยูงขนาด 2 คนโอบถูกคนร้ายเข้ามาลักลอบตัด และตัดส่วนลำต้นประมาณ 2 เมตรไป เหลือส่วนของลำต้นอีกกว่า 10 เมตร จึงแจ้งหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ จากนั้นเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูง ให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
หลังแจ้งความตำรวจได้มีการประสานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบ ก่อนจะมีมติตัดไม้พะยูงที่เหลือเป็นท่อนๆ ประมาณ 6-7 ท่อน เพื่อง่ายต่อการขนย้ายมาเก็บไว้ที่สำนักงาน ทต.อิตื้อ ถือว่าพ้นหน้าที่ความรับผิดชอบของตนแล้ว ต่อมาวานนี้ (7 ส.ค.) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าไม้พะยูงของกลางดังกล่าวได้หายจากที่จัดเก็บโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีกระแสพูดกันในชุมชนว่าอาจจะเกิดเหตุขโมยไม้ของกลางไป ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูงเป็นครั้งที่ 2
จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบว่ากล้องวงจรปิดภายในสำนักงาน ทต.อิตื้อ ไม่ได้ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งจะจับภาพบริเวณไม้ของกลางวางอยู่ และกล้องวงจรปิดภายในชุมชนก็ใช้การไม่ได้ ขณะที่นายก ทต.อิตื้อซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ยังไม่เข้าแจ้งความ จึงไม่มีความคืบหน้าของการติดตามคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง และไม่ทราบว่าไม้พะยูงจำนวน 6-7 ท่อน ใครขนย้ายไปและหายไปไหน
จึงเป็นประเด็นร้อนให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ และ พ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวน รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามหาคนรับผิดชอบกรณีไม้พะยูงของกลางที่ล่องหนจากเทศบาลตำบลอิตื้อครั้งนี้