กาฬสินธุ์ - ผู้ใหญ่บ้านพยานปากเอก หวั่นอิทธิพลขบวนการค้าไม้พะยูง หลังให้ปากคำและแจ้งเบาะแสไม้พะยูงของกลางมูลค่า 1 ล้านบาทหายไปจากเทศบาลตำบลอิตื้อ เผยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูงเรียกสอบเพิ่ม แต่ใช้คำพูดเชิงข่มขู่ กลัวไม่ได้รับความปลอดภัย
ความคืบหน้าไม้พะยูงของกลาง มูลค่า 1 ล้านบาท ที่นำไปเก็บไว้บริเวณหน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หายไป เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คนมีส่วนเกี่ยวข้องและทยอยเข้าให้ปากคำ แต่ยังให้การปฏิเสธ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยเม็ก เข้าแจ้งเบาะแส นำสู่การนำตัวคนขับรถเครนเข้าสอบปากคำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง ได้กันตัวไว้เป็นพยานตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.) นายประมุข พิชัยช่วง ผู้ใหญ่บ้านคำมะโฮ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะพยาน กล่าวว่า ตามที่ตนในฐานะผู้นำชุมชน และเครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 12.00-18.00 น. โดยวันนั้นเข้าให้ปากคำ 4 คน คือตน กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คน และผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน ต.อิตื้อ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านคนนี้เป็นคนโทรศัพท์มาหาตน เพื่อให้ช่วยติดต่อพ่อค้ามาซื้อไม้พะยูง ตนให้การไปตามความเป็นจริง ว่าเป็นเพียงผู้ให้หมายเลขโทรศัพท์พ่อค้าซื้อไม้กับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวติดต่อกันเองเท่านั้น ไม่มีส่วนรู้เห็นการขนย้ายหรือรับซื้อไม้ ถือว่าตนให้ข้อมูลไปหมดแล้ว
วันต่อมาได้ทราบจากข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำคนขับรถเครนคนหนึ่ง ซึ่งตนทราบว่าคนขับรถเครนถูกกันตัวเป็นพยาน ในส่วนของตนก็ควรผ่านพ้นไปแล้ว แต่เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 09.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูงโทร.มาหาตน โดยพูดเสียงกระชากว่า “วันอังคารที่ 15 ส.ค.ให้เข้ามาให้สอบปากคำอีก หากไม่มาจะออกหมายเรียก”
เมื่อได้ยินดังนั้นทำให้ตนรู้สึกว่าถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ และรู้สึกไม่สบายใจ เพราะอันที่จริงตนให้ข้อมูลไปหมดแล้ว จนนำมาสู่การเรียกตัวคนขับรถเครนไปสอบ แล้วทำไมต้องเรียกตนไปให้ปากคำอีก หากต้องการข้อมูลอีกน่าจะมาสอบถามตนที่บ้านได้ ตอนนี้ตนและลูกเมียจึงรู้สึกเครียดมาก กลัวไม่ได้รับความปลอดภัย
นายประมุขกล่าวอีกว่า ตนยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นขบวนการตัดไม้และขนย้ายไม้ ที่ไปให้ปากคำเพราะพอจะรู้เบาะแสบุคคลในวงการค้าขายไม้พะยูงในพื้นที่เท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่จะสรุปสำนวนอย่างไรเป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ ตนไม่ทราบ แต่ที่ไม่สบายใจคือทำไมต้องเรียกตนไปสอบปากคำเพิ่ม และใช้คำพูดเชิงบังคับ ไม่มีหางเสียง อยากได้ดังใจ
อย่างไรก็ตาม จากคำพูดเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว และเหตุการณ์ไม้พะยูงของกลางหายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เชื่อว่ามีขบวนการค้าไม้พะยูงและเป็นผู้มีอิทธิพล หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการข้อมูลอีก ตนก็ยินดีจะให้ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลเดิมอย่างที่ให้ไป อยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาสอบถามตนที่บ้าน เพราะตนไม่อยากไป สภ.โนนสูง เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย