กาฬสินธุ์ - หึ่งไม้พะยูงล่องหน ข้าราชการหลายหน่วยเอี่ยว ชี้ช่องกฎหมายธนารักษ์เปิดช่องมอดไม้ตัดไม้พะยูงแหล่งสุดท้ายของเอเชีย ด้าน ผวจ.กาฬสินธุ์สั่ง 4 หน่วยงานชี้แจงมีเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง ส่วนผู้การตำรวจเผยคดีนี้มีข้าราชการเอี่ยว ย้ำไม่มีมวยล้ม ลากคอเข้าคุกเท่านั้น
ความคืบหน้าไม้พะยูงของกลางมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทถูกคนร้ายลักลอบตัดจากพื้นที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ โดยขนย้ายท่อนไม้ได้จำนวนหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ร่วมกับนายกเทศมนตรีตำบลอิตื้อ พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีมติให้นำไม้พะยูงส่วนที่เหลือไปเก็บไว้หน้าเสาธง บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้เกิดหายไป เบื้องต้นพบมีเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และทยอยเข้าสอบปากคำ แต่ยังให้การปฏิเสธตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (12 ส.ค.) ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และนายอดิศร คงสมกัน หัวหน้าชุดเฉพาะกิจด้านป่าไม้จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยทีมตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีไม้พะยูงหาย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ไม้พะยูงถูกคนร้ายลักลอบตัด และร่วมกันสอบปากคำเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อรวบรวมข้อมูลหาเบาะแสติดตามคนร้าย ควบคู่กับการไล่ล่าขบวนการลักลอบตัดขนย้ายไม้หลบหนี ของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.โนนสูง และเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์
นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ นำทีมตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีไม้พะยูงถูกคนร้ายลักลอบตัดและของกลางหายไปจากเทศบาลตำบลอิตื้อ จากการตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบตัดและไม้พะยูงหายไปจริง โดยสอบปากคำเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพาะชำกล้าไม้ 2 ปาก ซึ่งจะได้สอบถามเชิงลึก ติดตามเบาะแสคนร้าย เพื่อให้เชื่อมโยงถึงขบวนการลักลอบตัดและขนย้ายไม้ต่อไป ส่วนการสอบปากคำ และข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคืบหน้า สามารถเชื่อมโยงไปถึงคนร้ายและตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่อาจเปิดเผยได้ในตอนนี้
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 ส่วน คือ ป่าไม้ ตำรวจ ธนารักษ์กาฬสินธุ์ รวมทั้งท้องถิ่นคือนายกเทศบาลตำบลอิตื้อ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้ได้มีคำสั่งให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะช่องทางกฎหมายหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการทางวินัยร้ายแรง ไม่มีละเว้นแน่นอน
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การติดตามคดีของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข่าวและพนักงานสอบสวนคืบหน้าไปมากหลังจากลงพื้นที่อย่างหนัก แต่เนื่องจากช่วงแรกพยานบุคคลไม่เพียงพอ และกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใช้การไม่ได้ ทำให้การติดตามเบาะแสค่อนข้างยากลำบาก แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำหลายปาก ค่อนข้างจะชัดเจนแล้วว่ามีข้าราชการเกี่ยวข้อง แต่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ไม่สามารถเปิดเผยในตอนนี้จะเสียรูปคดี ขอยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ใครผิดว่ากันไปตามผิด ไม่มีมวยล้มแน่นอน
รายงานแจ้งว่า ปัจจุบันไม้พะยูงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังหนาแน่น และประเทศไทยถือเป็นแหล่งสุดท้ายในภูมิภาคเอเชีย โดยส่วนใหญ่ต้นไม้พะยูงที่เหลืออยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของธนารักษ์ โดยเฉพาะพื้นที่กาฬสินธุ์ จึงเป็นที่หมายปองของขบวนการค้าไม้ ซึ่งหลังจากมี พ.ร.บ.ปลดล็อกไม้พะยูง ให้สามารถโค่น ตัด จำหน่ายเพื่อการค้าได้ พบว่ามีคดีลักลอบตัดบ่อยครั้งและหลายคดี ขบวนการดังกล่าวอาศัยช่องว่างกฎหมาย ดังนั้นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการปกป้อง และลงโทษผู้กระทำผิดขั้นเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำตัวเกลือเป็นหนอน