นครสวรรค์ - ตามพิสูจน์ถึงก้นครัว.. “ข้าวหมา” เมนูร้านตามสั่งหลังโรงเรียนดังนครสวรรค์ ฮิตติดเทรนด์โซเชียลฯ ยอดขายถล่มทลายไรเดอร์รอตรึมตั้งแต่เช้า-ลูกค้าหมุนเวียนนั่งกินต่อเนื่อง เห็นแว่บแรกสุดยี้ แต่รสชาติสุดว้าว ทั้งเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบ “ป้าอ้อย” แม่ครัวใหญ่เผยที่มา มีเด็กหอฯ หิวสั่งกินแล้วติดใจ-อุทานชื่อ จนเป็นตำนาน
กรณีโซเชียลฯ แชร์เมนูใหม่สุดแปลก “ข้าวหมา” จนติดเทรนด์ฮิต หลายรายต่างอยากจะไปลิ้มลองข้าวหมา ซึ่งร้านต้นตำรับที่คิดค้นเมนูหนึ่งเดียวในโลกนี้ขึ้นมาอยู่ที่เมือง จ.นครสวรรค์ และกำลังมียอดขายถล่มทลายอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านต้นตำรับเมนู "ข้าวหมา" สุดแปลกประหลาดดังกล่าว พบเป็นร้านอาหารตามสั่งชื่อ “ร้านป้าอ้อย” ตั้งอยู่ภายในอาคารพาณิชย์ บริเวณหลังโรงเรียนนครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ ขณะที่นางอนัญญา พินทอง หรือป้าอ้อย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านฯ เป็นแม่ครัวใหญ่ ทำหน้าที่ควงตะหลิวร่ายมนต์ใส่อาหารแต่ละเมนูให้ลูกค้าที่มารอสั่งกันอย่างเมามัน
และบริเวณหน้าร้านแต่ละวันจะพบกับเหล่าไรเดอร์ฟูดจากหลายแบรนด์วนเวียนขับขี่เข้ามาจอดรอรับออเดอร์กันอย่างไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมนูสุดแปลกอย่าง “ข้าวหมา” พบว่ามีออเดอร์มาสั่งซื้อกันตั้งแต่เช้า ไม่ต่ำกว่า 50 กล่องแล้ว และยังคงมีลูกค้าทยอยกันสั่งอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเมนู “ข้าวหมา” ผู้สื่อข่าวได้เห็นรูปร่างหน้าตาของอาหารของจริงแล้ว ดูแบบผิวเผินก็เหมือนข้าวผัด ที่เอาวัตถุดิบเหลือๆ มาผัดรวมกัน ซึ่งแว่บแรกก็ดูไม่ค่อยจะโสภาสถาพรมากนัก รวมทั้งเมื่อเห็น “ข้าวหมา” ถูกนำใส่จานหรือใส่ห่อกลับบ้าน รูปร่างหน้าตาและสีสันเหมือนทำให้น้องหมากินอย่างไม่ผิดเพี้ยนด้วย ก็ยังแอบสงสัยว่า..มันจะกินได้หรือไม่?!
แต่เมื่อมานั่งรับประทาน กลับกลายเป็นว่า ภาพที่เห็นกับรสชาติกลับตาลปัตรแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะถึงแม้จะดูไม่ค่อยน่ากิน แต่ได้ลิ้มรสคำแรก กลายเป็นว่า..อาหารจานนี้มีรสชาติคล้ายกับมาม่าผัดไข่ทั่วไป แต่ที่พิเศษคือ มันมีกลิ่นของพริกเผาหอมโชยขึ้นจมูก แถมเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบทุกรส จึงไม่แปลกที่เจ้าของร้านกล้าที่จะการันตี ว่าตอนนี้ “ข้าวหมา” เป็นอาหารเด็ดที่สุด และอร่อยที่สุดของร้านนี้ไปแล้ว
และสิ่งยืนยันคือ ลูกค้าที่มานั่งรับประทานที่ร้าน และยอดการสั่งผ่าน Food Rider ที่มีหลักร้อยจานต่อวันเลยทีเดียว แถม “แท็ค ภรัณยู” ก็เคยสั่งรับประทานตอนที่มาถ่ายทำรายการรถโรงเรียน แล้วติดใจ ให้ทีมงานกลับมาสั่งใหม่อีกถึง 3 รอบด้วย
อย่างไรก็ดี เคล็ดลับการทำ "ข้าวหมา" ป้าอ้อยเผยว่า มีส่วนประกอบหลักๆ คือ การนำข้าวสวย เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มสุก พริกเผา ผักบุ้ง หมูสับ และปรุงด้วยสูตรของทางร้าน ลงไปผัดรวมกันในกระทะ ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ได้รสชาติที่เข็มข้นลงตัว คือมีทั้งรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ซึ่งความอร่อยนั้นสวนทางกับรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างมาก อีกทั้งราคาขายยังสุดถูก เพราะข้าวหมาธรรมดาจะขายอยู่ที่จานละ 35 บาท แต่หากต้องการพิเศษหน่อยก็ต้องข้าวหมาจานละ 40 บาท เนื่องจากมีท็อปปิ้งเพิ่ม คือ ไก่ลูกเต๋าทอด ที่จะกลายเป็นเมนู “ข้าวหมาไก่แพน” ซึ่งนักเรียนเขาได้แต่งชื่อเมนูนี้ไว้ให้
นางอนัญญา หรือป้าอ้อย บอกอีกว่า เมนูข้าวหมาเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากร้านอาหารอยู่ใกล้โรงเรียนประจำจังหวัด ตอนหัวค่ำมีเด็กนักเรียนที่อยู่หอพักหิวแล้วมาสั่งข้าวผัดกิน แต่ช่วงใกล้ปิดร้าน ทำให้วัตถุดิบของที่ร้านในตอนนั้นมีเพียงข้าว และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างละนิดหน่อย แต่ด้วยความหิวโหยของเด็กๆ เขายืนยันว่ารับประทานได้ จึงตั้งใจผัดข้าวพร้อมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เด็กได้รับประทาน
ซึ่งวันนั้นเมื่อเด็กได้เห็นอาหารที่เขาสั่งด้วยความหิวครั้งแรก เขาก็อุทานออกมาเลยว่า..เหมือนข้าวหมาเลย แต่ปรากฏว่าวันต่อมาเด็กคนเดิมกลับมาสั่งเอาข้าวหมาเหมือนอย่างวันนั้นมากินอีก จนเพื่อนๆ เห็นก็แปลกใจ จึงสั่งตาม กระทั่งทุกวันนี้เขามาสั่งกินกันแบบนี้ตลอด กลายเป็นตำนาน “ข้าวหมา” ในที่สุด
ด้าน Food Rider รายหนึ่งบอกว่า ออเดอร์ของที่ร้านป้าอ้อยนี้ส่วนใหญ่มีแต่ "ข้าวหมา" และยิ่งในช่วงนี้มีการแชร์ลงในโลกโซเชียลด้วย ก็ยิ่งทำให้คนที่อยากลองของแปลกใหม่เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลดีทำให้กลุ่ม Food Rider มีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย