กาญจนบุรี - ป.ป.ช.กาญจน์ แถลงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1-3 พบผู้นำท้องถิ่นเจอคุกหลายราย ส่วนใหญ่เป็นคดีทุจริต นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการดำเนินการที่มีการสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดการทุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอีกหลายโครงการ
น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค.66 ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้แถลงผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 1-3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ภารกิจด้านป้องกันการทุจริต ดำเนินโครงการตามแผนงาน จำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเครือข่ายชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตระดับอำเภอให้ครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอ และมุ่งการเฝ้าระวังในกิจกรรมการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) โครงการอาหารกลางวันและโครงการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากยังพบปัญหาการดำเนินการที่มีการสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดการทุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงการพัฒนาศักยภาพชมรมเยาวชน STRONG เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมากขึ้น
2.โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งมีหน่วยงานที่ต้องเข้าร่วมการประเมินทั้งหมด 123 หน่วยงาน ประกอบด้วยสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 122 แห่ง ซึ่งผลคะแนนประเมินจะประกาศให้ทราบช่วงเดือนสิงหาคม 2566
3.โครงการแก้ไขปัญหาการทุจริตในพื้นที่ มุ่งเน้นการป้องปรามไม่ให้เกิดการทุจริตโดยคัดเลือกโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรือดำเนินการแล้วเสร็จแต่ยังอยู่ในระยะเวลาประกันสัญญา โครงการที่มีมูลค่าสูง โครงการที่มีความสุ่มเสี่ยง โครงการที่เป็นงบประมาณเร่งด่วน และหน่วยงานที่มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนจำนวนมาก มีผลการประเมิน ITA ไม่ผ่านเกณฑ์ในปีที่ผ่านมา โดยลักษณะของการดำเนินโครงการจะเป็นการแนะนำให้หน่วยงานดำเนินการแก้ไขที่บกพร่องให้ถูกต้องตามระเบียบ และรายงานผลให้ทราบ
4.โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption - TaC) ดำเนินโครงการโดยคัดเลือกโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โม เดล" เป็นกรณีศึกษาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการดำเนินโครงการที่มีลักษณะ “ทำแล้วทิ้ง” โดยมีการจัดทำข้อตกลงร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี พัฒนาการอำเภอ เจ้าของแปลง CLM เพื่อร่วมกันติดตามและขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย
5.โครงการรณรงค์สร้างกระแสต่อต้านการทุจริต ซึ่งกระทำในรูปแบบการประชาสัมพันธ์ผลงานของสำนักงานเป็นประจำทุกเดือน และจัดแถลงข่าวผลการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้รับข้อมูลข่าวสาร
นอกจากนี้ กรณีที่มีหน่วยงานรัฐถูกร้องเรียนผ่านสื่อต่างๆ (ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต CDC (Corruption Deterrence Center) ของสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรีจะเข้าตรวจสอบด้วย ดังกรณีต่อไปนี้
Case 1 "ท่าม่วง...ไฟต้องสว่าง โครงการจ้างเหมาแต่เราทำเอง" จากกรณีเพจชมรม strong ภาคตะวันตกเผยแพร่ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565 "ท่าม่วง...ไฟต้องสว่าง โครงการจ้างเหมาแต่เราทำเอง มีประเด็นข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ให้ผู้ว่าจ้างหรือไม่ เนื่องจากมีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ก่อนที่จะมีราคากลาง มีการติดตั้งอุปกรณ์โดยใช้รถ น้ำมัน บุคลากรของทางราชการ ไม่ใช่ผู้ชนะราคา น่าจะมีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างย้อนหลัง หลังจากติดตั้งโคมไฟส่องสว่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น่าจะมีการใช้อำนาจหน้าที่ทุจริตอย่างไม่ชอบ
กรณีดังกล่าวสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรับเข้าสู่กระบวนการเรื่องร้องเรียนโดยออกเลขเรื่องกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว
Case 2 “สร้าง 33 ล้าน ไม่เคยได้น้ำสักหยด” เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านได้เผยแพร่ข่าว “สร้าง 33 ล้าน ไม่เคยได้น้ำสักหยด” โผล่มาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ สำหรับประปาหมู่บ้าน เน้นสร้างไม่เน้นใช้ อย่างรอบนี้เป็นผลงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง จ.กาญจนบุรี จัดโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดน อบต.บ้านเก่า ด่านพุน้ำร้อน ระยะที่ 3 ก่อสร้างเพื่อส่งน้ำจากแม่น้ำแควน้อยไปสถานีจ่ายน้ำ 4 จุด ด้วยระยะทางกว่า 50 กม. ให้ชาวบ้านในพื้นที่ ใช้งบรวมก้อนใหญ่ 123 ล้านบาท
โดยสถานีจ่ายน้ำบ้านประตูด่าน เป็นหนึ่งในโครงการ ใช้งบ 33,788,327 บาท งานนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 61 ปัจจุบันยังใช้งานไม่ได้ น้ำไม่มีสักหยด มีแต่ท่ออยู่ใต้ดินมา 4 ปี แถมบางท่อไม่ได้ติดตั้งวางไว้เฉยๆ จนหญ้าขึ้นจะปิดมิดหมดแล้ว ส่วนอุปกรณ์ สายไฟมอเตอร์ หายเกือบหมด พอถาม อบต.บ้านเก่า ได้คำตอบแค่ว่าไม่รู้โครงการ อ้างว่ามีปัญหากรรมสิทธิ์ยังไม่รู้ใครหรือหน่วยงานไหนเป็นเจ้าของที่ดิน ถ้าจะใช้น้ำประปาต้องใช้งบอีกหลายล้านบาท
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 และเครือข่ายชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริง และได้รับการชี้แจงถึงที่มาของปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเกิดจากการขออนุญาตใช้พื้นที่ดำเนินโครงการ ทำให้ยังไม่สามารถส่งมอบโครงการได้ จึงชี้แจงให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เร่งดำเนินการเรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ถูกต้องเพื่อจะได้เปิดระบบน้ำให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากโครงการต่อไป
Case 3 “แสวงหาความร่วมมือทางวิชาการทริปหนีร้อนไปพึ่งเย็น บินลัดฟ้าตะลอนทัวร์ดูงานแดนปลาดิบ ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน” เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่แสวงหาความร่วมมือทางวิชาการทริปหนีร้อนไปพึ่งเย็นบินลัดฟ้าตะลอนทัวร์ดูงานแดนปลาดิบ ที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืน ดูงานจริงแค่ครึ่งวันเช้า สามวันที่เหลือเที่ยวชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาบอาชิ ชอปปิ้งย่านชินจูกุ เพลินเพลิดกับการแช่ออนเซ็น และรายการท่องเที่ยวอื่นๆ อีกเพียบ โปรแกรมสุดว้าวนี้ เป็นของ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 23 พ.ศ.2566 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรีลงพื้นที่ติดตามกรณีดังกล่าว และได้ขอเอกสารหลักฐานในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน 1.จำนวนบัญชีค้างเก่า ณ ปัจจุบัน จำนวน 29 บัญชี บัญชีรับใหม่ จำนวน 46 บัญชี 2.เรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าจงใจไม่ยื่นบัญชี หรือยื่นบัญชีด้วยข้อความอันเป็นเท็จในจังหวัด (ยังไม่มี แต่มีเรื่องที่อยู่ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหากรณีปกปิด/ยื่นบัญชีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ จำนวน 2 ราย)
ภารกิจด้านปราบปรามการทุจริต 1.ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริต เรื่องตรวจสอบเบื้องต้น ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565-30 มิถุนายน 2566 3.ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริต เรื่องที่คณะกรรมการมีมติชี้มูล ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565-30 มิถุนายน 2566 มีจำนวน 10 เรื่อง ได้แก่
1.เรื่องกล่าวหานายวรยุทธ คุ้มสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กับพวก ออกเอกสารแบบแสดงรายการที่ดินเพื่อชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) โดยไม่มีที่ดินอยู่จริง และนำไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน หรือขายฝากกับผู้เสียหาย รวมจำนวน 4 เรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน
5.เรื่องกล่าวหาอดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองปลาไหล อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี กับพวกรับชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) โดยมิชอบ โดยเป็นการรับชำระภาษีบำรุงท้องที่ในเขตป่าสงวน
6.เรื่องกล่าวหา นายสำรวม ใจซื่อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี กับพวก เบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างระบบประปาผิวดินขนาดใหญ่ บ้านสหกรณ์นิคม หมู่ที่ 1 ให้ผู้รับจ้างทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ
7.เรื่องกล่าวหานางมิตภาณี พงษ์พัว หรือพุ่มกล่อม คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ว่าเบิกจ่ายเงินค่าบำรุงสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ.2560 แล้วไม่นำไปจ่ายสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย
8.เรื่องกล่าวหานายเสริมฤทธิ์ สำแดงเดช ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (ประชาภิบาล) อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เรียกเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาจากนักเรียนชั้นอนุบาลโดยมิชอบ และไม่นำส่งเป็นรายได้ของสถานศึกษา
9.เรื่องกล่าวหา นายเชิดชัย ซิบเข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลวังโพธิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี กับพวก ทุจริตเบิกจ่ายเงินโครงการอบรมและทัศนศึกษาดูงานของคณะกรรมการชุมชน สมาชิกชุมชน คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และพนักงาน ณ เทศบาลในเขตจังหวัดภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย) เมื่อปี พ.ศ.2555
10.เรื่องกล่าวหานายเกรียงไกร ใจเย็น นายกเทศมนตรีตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ว่ารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบริษัท น้ำตาลไทยกาญจนบุรี จำกัด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
4.ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ได้แก่ 1.คดีหมายเลขดำที่ อท 9/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อท 52/2566 เป็นกรณีกล่าวหานายปรีชานนท์ จำนงกูล กับพวกรวม 9 คน ทุจริตเบิกจ่ายเงินโดยไม่มีกรรมการตรวจรับงาน จัดทำเอกสารเบิกเงินเท็จ และเบิกเงินเกินกว่าค่าใช้จ่าย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ว่าการกระทำของนายปรีชานนท์ จำนงกูล นายประเสริฐ แป้นทอง และนายวีรวุฒิ สุคนธมาน และ น.ส.กัญญา อินทร์ประทับ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 พิพากษาลงโทษจำคุกนายปรีชานนท์ จำนงกูล นายประเสริฐ แป้นทอง นายวีรวุฒิ สุคนธมาน กระทงละ 5 ปี รวมลงโทษ 10 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุก คนละ 6 ปี 8 เดือน น.ส.กัญญา อินทร์ประทับ ลงโทษจำคุก 5 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน และนายสราวุธ หอมจันทร์ ลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับ 24,000 บาท ลดโทษ 1 ใน 3 คงลงโทษ 2 ปี 2 เดือน ปรับ 16,000 บาท โทษจำคุกให้รอ 3 ปี
2.คดีหมายเลขดำที่ 43-1-355/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1372-1-30/2564 เป็นกรณีกล่าวหานายวรยุทธ คุ้มสิน ปลัดเทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กับพวก ออกเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) เลขสำรวจที่ 915 หมู่ที่ 1 โดยมิชอบ และนำไปหลอกลวงใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ว่านายวรยุทธ คุ้มสิน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 162 มาตรา 341 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 90 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-5 ยังไม่มีคำพิพากษาเนื่องจากมีการแยกฟ้อง
3.คดีหมายเลขดำที่ 43-1-071/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1300-1-50/2564 เป็นกรณีกล่าวหานายวรยุทธ คุ้มสิน ปลัดเทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กับพวกออกเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) เลขสำรวจที่ 925 หมู่ที่ 1 โดยไม่มีที่ดินอยู่จริงและนำไปหลอกลวงขายให้ผู้อื่น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษา วันที่ 15 มีนาคม 2566 ว่านายวรยุทธ คุ้มสิน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 162 มาตรา 341 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 90 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-6 ยังไม่มีคำพิพากษา เนื่องจากมีการแยกฟ้อง” น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เผย