กำแพงเพชร - พบเด็กทารกกะโหลกระเบิดผิดรูป เพิ่งคลอดได้ 20 กว่าวัน แพทย์บอกน้ำในหัวระบายไม่ออกจึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว ต้องผ่าใส่สายยางจากกระดูกสันหลังระบายน้ำลงกระเพาะปัสสาวะ รอจนอายุ 13-14 ผ่าตัดอีกครั้ง ขณะที่พ่อแม่สุดยากจน อาศัยบ้านญาติที่ทรุดเอียงแทบเข้าออกไม่ได้
นายมาร์ค พังทอง อายุ 29 ปี กับ น.ส.ทักษพร กองเมือง อายุ 22 ปี สองสามีภรรยาที่มีฐานะยากจนอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 886 หมู่ 15 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร กับลูกๆ อีก 2 คน ประกอบด้วย ด.ช.ชัยวัฒน์ กองเมือง อายุ 6 ขวบ และ ด.ญ.กันต์ฤทัย กองเมือง หรือน้ององุ่น เพิ่งคลอดได้ 20 วัน
สภาพบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้เก่าแก่ฝาบ้านบางแห่งใช้สังกะสีเก่ามาตีปิดไว้ หลังคาเป็นสังกะสีที่มีรูทั่วไป บ้านทั้งหลังทรุดตัวจนเอียง บ้านบางส่วนเอียงเทไม่สมารถเดินเข้าไปได้ มีส่วนที่พออาศัยอยู่ได้พื้นที่แค่เพียงมุ้งกางได้เท่านั้น ภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินมีค่าใดๆ แม้แต่เพียงชิ้นเดียว
สิ่งที่น่ากังวลคือ “น้ององุ่น” ลูกคนเล็กของสองสามีภรรยาที่เกิดมาศีรษะบิดเบี้ยว กะโหลกด้านซ้ายยกสูงขึ้นมาเกยกับกะโหลกด้านขวา หน้าผากมีสันนูนเป็นแนวยาวจากหว่างคิ้วยาวขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ ส่วนด้านหลังกะโหลกยุบเข้าไปจากท้ายทอยจดถึงกลางศีรษะ ที่ศีรษะและท้องด้านขวามีผ้าพันแผลปิดไว้
น.ส.ทักษพร ผู้เป็นแม่น้ององุ่น บอกว่า ไปคลอดที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากคลอดออกมาพบว่าน้ององุ่นมีลักษณะดังกล่าว แพทย์ระบุว่าเป็นเพราะน้ำในศีรษะระบายไม่ออก จึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว ซึ่งได้ผ่าตัดใส่สายยางระบายน้ำจากกระดูกสันหลังลงไปที่กระเพาะปัสสาวะเพื่อระบายน้ำออกมาเป็นปัสสาวะแทน ถ้าไม่ผ่าตัดก็จะกลายเป็นเด็กหัวโต
แพทย์ยังบอกว่า อีกประมาณ 6 เดือนกะโหลกศีรษะอาจจะเข้าที่ก็ได้ แต่ยังจะต้องผ่าตัดอีกครั้งเมื่ออายุ 13-14 ปี โดยช่วงนี้ต้องให้ดื่มนมที่โรงพยาบาลให้มา และห้ามให้ดื่มน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะไปเพิ่มน้ำในศีรษะ ซึ่งคนที่เป็นแม่เมื่อมองหน้าลูกทุกครั้งก็จะรู้สึกสงสารมาก
น.ส.ทักพรยังเล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่ลำบากว่า บ้านที่พาน้องมาอยู่ตอนนี้เป็นบ้านของญาติกัน ก่อนที่จะไปคลอดตนปลูกเพิงขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนนบริเวณหน้าบ้าน มีรายได้วันละประมาณ 300 บาทยังไม่หักต้นทุน ส่วนสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไปได้ค่าจ้างวันละ 250 บาท แต่ไม่มีงานมาประมาณ 2 เดือนจึงไม่มีรายได้เข้าบ้านเลย ช่วงนี้จึงลำบากมาก นอกจากบ้านที่ชำรุดทรุดโทรมใกล้จะพังแล้ว ยังจะต้องหาเงินซื้อแพมเพิร์ส-นมให้น้อง
ส่วนการจะพาลูกไปหาหมอก็ต้องยืมรถเพื่อนบ้านบ้าง บางครั้งก็ต้องเช่ารถไปบ้าง เฉพาะค่ารถค่าน้ำมันก็ตกครั้งละ 400-500 บาทแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก จึงอยากขอวอนท่านผู้ใจบุญช่วยเหลือน้ององุ่นด้วย โดยสามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองลานกำแพงเพชร ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.ทักษพร กองเมือง หมายเลขบัญชี 0653437900
