xs
xsm
sm
md
lg

ครูบาเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่ล่องหนหลังโดนสั่งสอบกรณีถอยกระบะชนดะ-เงินทำบุญ 200 ล้านไม่เข้าบัญชีวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ครูบาดังเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอยล่องหนหลังโดนตรวจสอบกรณีขับรถกระบะถอยชนในบ้านเอื้ออาทรกลางเมืองเชียงใหม่ และเงินทำบุญหลายล้านบาทไม่เข้าบัญชีวัด ขณะที่ชาวบ้านเผยไม่เจอตัวตั้งแต่เกิดเหตุรถชน ทราบแต่เพียงว่าลูกศิษย์พาไปรักษาตัวไม่กลับวัด ชี้เป็นพระดีนักพัฒนาทำให้วัดมีชื่อเสียงเจริญก้าวหน้ามีศรัทธาทำบุญและเป็นแหล่งท่องเที่ยวช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน ยอมรับเห็นขับรถยนต์เป็นประจำ แต่ไม่เชื่อเรื่องมีเงินทำบุญวัดมากถึง 200 ล้านบาทและนำไปใช้ส่วนตัว


ความคืบหน้ากรณีเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่สั่งการให้ตรวจสอบพระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือ “ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ” อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กรณีขับรถยนต์กระบะถอยหลังชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเสียหายหลายคัน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 66 และกรณีเงินจำนวนหลายล้านบาทที่คณะศรัทธาจากกรุงเทพฯ ร่วมทำบุญถวายแด่ทางวัด แต่ปรากฏว่าไม่มีการนำเงินเข้าบัญชีวัด รวมทั้งกรณีการร้องเรียนว่าทางวัดมีการก่อสร้างหลายจุดโดยที่ไม่ขออนุญาตและบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งนี้ในระหว่างตรวจสอบให้ครูบาพรชัยงดปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย

วันนี้ (19 มิ.ย. 66) วัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา และพื้นที่บริเวณวัดหลายจุดกำลังมีงานก่อสร้าง ทั้งซุ้มประตูวัด และรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น ทั้งนี้ จากการสอบถามพระลูกวัดได้รับการแจ้งว่าครูบาพรชัยไม่ได้อยู่ที่วัด เนื่องจากลูกศิษย์พาไปรักษาอาการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัวในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีการพาไปรักษาตัวและแทบไม่ได้กลับมาวัดเลยนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุขับรถยนต์กระบะถอยหลังชนที่บ้านเอื้ออาทรป่าตัน ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นไม่ทราบรายละเอียดและไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้ 

ขณะที่จากการพูดคุยสอบถามชาวบ้านที่อยู่อาศัยใกล้เคียงวัดระบุว่า ครูบาพรชัยเป็นพระดีและพระนักพัฒนาที่ทำให้วัดมีความเจริญและมีผู้คนศรัทธาพากันมาทำบุญเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชาวบ้านและชุมชนจนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามไปด้วย

สำหรับเรื่องที่ครูบาพรชัยขับรถยนต์นั้น ชาวบ้านบอกว่าปกติครูบาพรชัย ขับรถยนต์กระบะเป็นประจำและเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งตรวจงานภายในวัดที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางและมีการก่อสร้างอยู่หลายจุด รวมทั้งขับรถไปไหนมาไหนเพื่อทำธุระ เนื่องจากวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและบางครั้งไม่มีคนคอยช่วยขับรถยนต์ให้ จึงทำให้มีความจำเป็นต้องขับรถด้วยตัวเอง ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย ขณะที่ในส่วนของเรื่องเงินทำบุญที่มีการระบุว่ามากถึง 200 ล้านบาทนั้นไม่เชื่อว่ามียอดเงินทำบุญมากถึงเพียงนั้น และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของครูบาพรชัย ว่าไม่ได้นำเงินวัดไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่เกิดเหตุครูบาพรชัยขับรถชนยังไม่มีโอกาสได้พบเจอตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทราบว่าทางลูกศิษย์พาไปรักษาตัวจากอาการป่วยโรคประจำตัว


ด้านพระครูสิริอาภากร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่า เบื้องต้นในเวลานี้ทางคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งให้ครูบาพรชัยลาจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย เป็นเวลา 15 วัน ทั้งนี้เพื่อดำเนินการตรวจสอบกรณีที่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 66 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ยื่นคำร้องต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ให้ตรวจสอบครูบาพรชัย กรณีที่ขับรถชนว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นพระสงฆ์และขัดมติมหาเถรสมาคม มติที่ 252/2564 ห้ามพระภิกษุสามเณรขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งพระสงฆ์มีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่อย่างไร และเงินที่นำไปชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีนั้นเป็นเงินส่วนตัวของพระสงฆ์หรือวัด ตลอดจนมีที่มาที่ไปอย่างไร

จากการสอบสวนที่ผ่านมา ครูบาพรชัยยังคงยืนยันว่าขับรถไปหาน้องสาวและเกิดอาการโรคประจำตัวกำเริบ จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบเรื่องเงินทำบุญนั้น ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงและยังไม่ได้ตรวจสอบ โดยเป็นหน้าที่ของทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ในการตรวจสอบต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นเรื่องวัดพระพุทธบาทสี่รอยมีการก่อสร้างรุกล้ำพื้นป่านั้น ที่ผ่านมาทางวัดมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ผ่านทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประสานงานให้และได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามมีการร้องเรียนว่าทางวัดมีการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่เป็นวงกว้างนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาต และการก่อสร้างต่างๆ ไม่ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับทางท้องถิ่นด้วย ซึ่งเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง.












กำลังโหลดความคิดเห็น