เชียงใหม่ - เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์เรียกครูบาดังเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอยเข้าชี้แจงกรณีข่าวอื้อฉาวขับกระบะถอยชนรถชาวบ้านเสียหาย พร้อมสอบถามเรื่องเงินบริจาคหลายล้านบาทแต่กลับไม่ส่งเข้าบัญชีวัด โดยเจ้าตัวไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ ขอลาสิกขาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ถูกยับยั้งเพราะต้องรอตรวจสอบทรัพย์สินและเงินของวัดอย่างละเอียดเสียก่อน ให้ทางเลือกแค่ลาออกหรือให้ปลดออกจากการเป็นเจ้าอาวาสเพื่อตรวจสอบ หากพบกระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ขณะเดียวกันพบเรื่องร้องเรียนก่อสร้างไม่ขออนุญาตและบุกรุกป่า
จากกรณีข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค. 66 พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือ “ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ” อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถยนต์กระบะถอยหลังชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเสียหายหลายคัน โดยสภาพครูบาพรชัยนั้นเมื่อลงจากรถพบว่ามีคราบอุจจาระเปรอะเปื้อนเต็มขา
พร้อมให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขับรถมาจากวัดด้วยตัวเองเพราะคนขับรถของวัดไม่ว่าง แต่ต้องรีบซื้อของเตรียมงานทำบุญของวัด ทั้งนี้ได้แวะมาหาน้องชาย แต่ขณะเกิดเหตุมีอาการโรคประจำตัวกำเริบทำให้ไม่สามารถยกเท้าขึ้นจากคันแร่งได้ ซึ่งพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด โดยกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากครูบาพรชัยถือเป็นพระเกจิชื่อดัง และเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ซึ่งเป็นวัดที่บุคคลมีชื่อเสียงระดับประเทศจำนวนมากให้ความศรัทธาและมาทำบุญเป็นประจำ รวมทั้งพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่นำคณะเดินทางมาทำบุญเป็นประจำตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยที่ครูบาพรชัยเป็นพระผู้นำประกอบพิธีกรรมต่างๆ อยู่เสมอ
วันนี้ (19 มิ.ย. 66) รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งให้ครูบาพรชัยเข้าพบและชี้แจงกรณีข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยครูบาพรชัย พร้อมพระลูกวัดและคณะกรรมการวัดจำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าพบที่วัดเชตวัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 66 ทั้งนี้ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์ได้สอบถามครูบาพรชัยเกี่ยวกับกรณีถอยรถกระบะชนที่โครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ขณะเดียวกันได้สอบถามเกี่ยวกับเงินบริจาคทำบุญจำนวนหลายล้านบาท ที่ทางวัดและคณะศรัทธาที่กรุงเทพฯ แจ้งว่าได้มอบถวายวัดพระพุทธบาทสี่รอยแล้ว แต่ไม่มีการนำเข้าบัญชีของวัด ซึ่งครูบาพรชัยไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดไม่นำเงินเข้าบัญชีวัด และเงินดังกล่าวไปอยู่ที่ใด นอกจากนี้ยังมีประเด็นการก่อสร้างวิหาร รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างของวัด ที่มีการร้องเรียนว่าไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างจากทางท้องถิ่น และบุกรุกพื้นที่ป่าอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการชี้แจงทางครูบาพรชัยได้แจ้งว่าพร้อมจะลาสิกขาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องราวทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์ไม่อนุญาตให้ลาสิกขา เพราะต้องดำเนินการตรวจสอบติดตามเงินบริจาคจำนวนหลายล้านบาทของวัดว่าอยู่ที่ใดกลับคืนมาให้ได้เสียก่อน ทั้งนี้ให้ทางเลือกแก่ครูบาพรชัย 2 ทางเลือก คือ ลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัด หรือถูกปลดออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัด ทั้งเพื่อให้ทางคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทรัพย์สินและการเงินของวัดพระพุทธบาทสี่รอย อย่างละเอียด ทั้งนี้ หากพบว่ามีการกระทำผิดใดๆ จะต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งเบื้องต้นทางครูบาพรชัยได้ขอเวลาวัดไปพิจารณาตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเลือกอย่างไร
