เชียงใหม่ - “ปลัดจอมแฉ” ยื่นหนังสือจี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบและลงโทษครูบาชื่อดังเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย กรณีขับรถกระบะชนทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายหลายคันกลางลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ตกเป็นข่าวดัง ชี้ขัดมติมหาเถรสมาคมชัดเจน พร้อมทั้งขอให้ตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และเงินที่นำไปชดใช้ให้คู่กรณีว่าเป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด
วันนี้ (1 มิ.ย. 66) ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบและพิจารณาลงโทษกรณีพระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือ “ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ” อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถยนต์กระบะถอยชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นพระสงฆ์ และขัดมติมหาเถรสมาคม มติที่ 252/2564 ห้ามพระภิกษุสามเณรขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งพระสงฆ์มีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่อย่างไร และเงินที่นำไปชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณีนั้น เป็นเงินส่วนตัวของพระสงฆ์หรือวัด ตลอดจนมีที่มาที่ไปอย่างไร โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่รับมอบหนังสือและนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจสอบต่อไป
นายบุญญฤทธิ์เปิดเผยว่า ยื่นหนังสือในครั้งนี้เนื่องจากตัวเองเคยเป็นปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และรับผิดชอบดูแลพื้นที่ตำบลสะลวง ที่ตั้งของวัดพระพุทธบาทสี่รอย ซึ่งเป็นวัดที่มีผู้คนเชื่อถือศรัทธาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศที่มาทำบุญเป็นประจำ เช่นเดียวกับตัวเองที่ไปทำบุญที่วัดแห่งนี้อยู่บ่อยๆ และล่าสุดเพิ่งพาครอบครัวไปทำบุญเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง เมื่อทราบข่าวที่เกิดขึ้นดังกล่าวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ที่ขับรถยนต์ออกไปนอกวัดและเกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและสร้างความเสื่อมเสียให้แก่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาลงโทษ
ทั้งนี้ เนื่องจากมหาเถรสมาคมได้ลงมติ ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 มติที่ 252/2564 “ห้ามพระภิกษุสามเณรขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์” โดยถึงแม้พระวินัยไม่ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นการทำผิดพระวินัย แต่เป็นโลกวัชชะ และไม่เหมาะกับสมณเพศ หรือเพศบรรพชิต ที่อยู่ในฐานะปูชนียบุคคลที่ชาวพุทธให้ความเคารพกราบไหว้ และไม่ควรทำตัวเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งมติดังกล่าวได้ห้ามพระภิกษุสามเณรขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งห้ามกระทำการอื่นใดที่จะเอื้อต่อการขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยหากพบเห็นการกระทำดังกล่าวให้เจ้าคณะผู้ปกครองใกล้ชิดดำเนินการพิจารณาโทษตามอำนาจหน้าที่การปกครองคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด เว้นแต่การขับขี่ยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวก หรือขนย้ายข้าวของ หรือสัมภาระอื่น เพื่อกิจการของวัดภายในบริเวณวัด หรือมีเหตุจำเป็น หรือมีเหตุฉุกเฉินอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน นายบุญญฤทธิ์บอกด้วยว่า นอกจากให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ที่ขัดมติมหาเถรสมาคมเรื่องการห้ามพระภิกษุสามเณรขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว ยังขอให้ตรวจสอบด้วยว่าเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอยนั้นมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือไม่อย่างไร โดยหากไม่มีใบอนุญาตขับขี่แล้ว ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร หรือหากมีใบอนุญาตขับขี่ก็อยากทราบว่าได้มาได้อย่างไร เนื่องจากทราบว่าบวชตั้งแต่เป็นเด็ก พร้อมกันนี้ขอให้ตรวจสอบด้วยว่าเงินที่นำมาจ่ายชดใช้ความเสียหายให้คู่กรณีนั้น เป็นเงินส่วนตัวหรือว่าเงินของวัด ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือในครั้งนี้แล้วตัวเองจะติดตามการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะทราบผล รวมทั้งจะหาโอกาสเข้าพบเจ้าคณะอำเภอแม่ริมเพื่อขอปรึกษาหารือด้วย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นช่วงเช้าตรู่วันที่ 29 พ.ค. 66 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะขับชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายหลายคัน บริเวณลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงเข้าตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าอาคารที่ 30 โครงการบ้านเอื้ออาทรป่าตัน โดยรถยนต์กระบะต้นเหตุเป็นรถยนต์กระบะสี่ประตู สีบรอนซ์ทอง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กว 3557 เชียงใหม่ ขับถอยหลังชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ได้รับความเสียหายหลายคัน ซึ่งพบว่าคนขับรถกระบะต้นเหตุ คือ พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ หรือ “ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ” อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย และมีชื่อเป็นเจ้าของรถกระบะคันเกิดเหตุด้วย