เชียงราย/ท่าขี้เหล็ก - ทางการไทย-มูลนิธิปวีณาส่งรายชื่อสาวไทยถูกหลอกให้ผู้ว่าฯ ท่าขี้เหล็กแล้ว แต่ส่อช่วยได้หยิบมือ ที่เหลืออยู่เขตชนกลุ่มน้อยรอรัฐบาลช่วย
ความคืบหน้ากรณีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กเเละสตรี พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนพื้นที่ จ.เชียงราย ได้มีการประชุมหารือเพื่อช่วยเหลือคนไทยส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ รวมทั้งมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือพากลับประเทศไทยหลังจากถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศเมียนมาโดยเฉพาะในเขตรัฐฉาน
หลังจากคณะของกรมการกงสุลและนางปวีณาได้เดินทางข้ามไปหารือกับนายอู มิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก และหน่วยงานในประเทศเมียนมาติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อหารือเรื่องการช่วยเหลือคนไทยดังกล่าว ล่าสุดทางคณะของนายอู มิ้น ไหน่ แจ้งว่าจะให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทุกราย
ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ ได้แจ้งรายชื่อและสถานที่ทำงานของคนไทยจำนวน 27 รายให้ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อขอให้ประสานการช่วยเหลือนั้น พบว่าผู้เสียหายไปทำงานอยู่ที่เมืองล็อกกิ่งหรือเล้าไก่ รัฐฉาน มากที่สุดถึง 16 ราย ปัจจุบันติดต่อได้เพียง 2 ราย, เมืองป๊อก รัฐฉาน อีกจำนวน 4 ราย สามารถติดต่อได้ 2 ราย และเมืองเมียวดีจำนวน 1 ราย
ส่วนใหญ่ถูกหลอกให้ไปทำงานค้าประเวณีและเว็บการพนันออนไลน์ บางคนถูกทำร้ายร่างกาย ถูกบังคับให้เสพยาเสพติด หรือให้อดอาหาร โดยถ่ายภาพร่างกายที่ถูกทำร้ายส่งให้มูลนิธิปวีณาฯ ให้ทราบสถานการณ์ด้วย
ทั้งนี้ นอกเหนือจากทั้ง 27 รายดังกล่าวทางมูลนิธิสามารถประสานงานเพื่อช่วยเหลือกลับมาได้แล้วจำนวน 5 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองป๊อก เมืองเมียวดี เมืองยวนย่า
นายอู มิ้น ไหน่ ผู้ว่าการ จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งกลับต่อฝ่ายไทยว่าทางการเมียนมาในรัฐฉานจะให้การช่วยเหลือคนไทยกลับมาโดยเร็ว แต่จะสามารถให้การช่วยเหลือได้เฉพาะคนที่อยู่นอกเขตเมืองเล้าไก่เท่านั้น เพราะเมืองเล้าไก่เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองโกกั้ง ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลกลาง และต้องประสานงานไปทางกรุงเนปิดอว์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเมียนมาได้ ซึ่งทางคณะจากฝ่ายไทยได้ขอบคุณทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ที่รับจะให้การช่วยเหลือดังกล่าว
นางปวีณากล่าวว่า กรณีของเมืองเล้าไก่ดังกล่าวอยู่ติดชายแดนจีน-เมียนมา เป็นเขตปกครองตนเองที่กำลังมีการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจและมีสถานบันเทิงต่างๆ เป็นจำนวนมาก สามารถเดินทางจากประเทศจีนไปถึงได้ในเวลาเพียงประมาณ 15 นาที
ทั้งนี้ การช่วยเหลือที่ผ่านมาทางมูลนิธิปวีณาฯ พยายามแสวงหาวิธีจนกระทั่งทราบว่าบางพื้นที่ต้องติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทหารจึงสามารถช่วยเหลือกลับมาได้ ดังนั้นจะพยายามประสานงานเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ยังตกค้างอยู่ดังกล่าวต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ช่วงที่เดินทางไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก นางปวีณาได้ติดต่อทางไลน์กับ น.ส.แนน หญิงสาวชาว จ.ชลบุรี ซึ่งถูกหลอกไปทำงานที่เมืองเล้าไก่ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. แต่เนื่องจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้องทำให้จับใจความได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวถูกคนหลอกให้ไปทำงานและเมื่อไปถึงถูกบังคับทำงานและให้เสพยาเสพติด ซึ่งนางปวีณารับปากว่าจะพยายายช่วยเหลือกลับประเทศไทยให้ได้ต่อไปก่อนที่จะตัดการสื่อสารไป
