แม่สาย/ท่าขี้เหล็ก - แกะรอยเส้นทางนักท่องเที่ยวสาวมาเลย์หายตัวปริศนา แม่โพสต์ตามหาว่อนโซเชียลฯ พบเบาะแสโผล่แม่สาย-ซ้อน จยย.จ่อพรมแดน คาดข้ามฝั่งเข้าท่าขี้เหล็ก เมียนมา
วันนี้ (5 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมารดา น.ส.ชองซัม ยี อายุ 22 ปี หรือแองจี้ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลฯ ว่าลูกสาวเดินทางไปเที่ยวที่ภาคเหนือของไทยและได้หายตัวไปแล้วติดต่อไม่ได้ โดยเบื้องต้นระบุว่าหายไปจากท้องที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดทางด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย สภ.แม่สาย และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า น.ส.ซองซัม ยี ได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้ว
โดยพบว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาสาวชาวมาเลเซียคนนี้ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรแม่สายข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 และวันที่ 30 พ.ค.ได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเดินทางไปยังชายแดนด้าน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ซึ่งมีแม่น้ำรวกเป็นเขตแดนและฝั่งตรงกันข้ามเป็น จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจภาพในกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนออกจากโรงแรม น.ส.ซองซัม ยี ได้นั่งอยู่ตรงล็อบบี้และได้มีหญิงสาวสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวเดินเข้าไปทักทายพูดคุยอย่างสนิทสนม ก่อนที่จะพากันเดินออกจากโรงแรมไป
จากนั้นสาวชาวมาเลเซียได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเดินทางไปยังชายแดนด้าน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย
เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามหาตัวคนที่ขับขี่รถจักยานยนต์คันดังกล่าวซึ่งพบว่าเป็นหญิง สอบถามเบื้องต้นก็แจ้งว่า น.ส.ซองซัม ยี ได้ว่าจ้างเป็นเงิน 500 บาท ให้ตนพาไปส่งที่ท่าน้ำข้ามแดนแห่งหนึ่งแต่เมื่อไปส่งถึงที่หมายแล้วก็ไม่รู้ว่าสาวชาวมาเลเซียได้ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาณโทรศัพท์ของ น.ส.ซองซัม ยี ได้หายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จึงอาจเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวได้ใช้ช่องทางทางธรรมชาติตรงท่าน้ำติดกับแม่น้ำรวกข้ามไปยังประเทศเมียนมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชายแดนฝ่ายไทยได้ประสานงานอย่างไม่เป็นทางการไปยังส่วนท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อให้ช่วยติดตามว่า น.ส.ซองซัม ยี ได้ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วจริงหรือไม่ รวมทั้งรอการแจ้งขอความช่วยเหลือจากทางการประเทศมาเลเซียหรือญาติของสาวชาวมาเลเซียผู้นี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งต่อไป