ทีม “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยสาวไทยโดนหลอกทำงานเมียนมา-ขายต่อนายทุนจีนส่งไปถึงเมืองหลวงว้าแดง

เชียงราย - ทีม “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยสาวไทยวัยเบญจเพสดู TIKTOK ชวนไปทำงานเมียนมา ก่อนถูกหลอกขายนายทุนจีนส่งต่อไปถึง “ปางซาง” เมืองหลวงว้าแดง ได้กินข้าววันละมื้อก่อนได้รับการช่วยเหลือส่งตัวกลับไทย


วันนี้ (29 พ.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.ซึ่งเป็นรอง ผอ.ศพดส.ตร. เดินทางไปรับตัวหญิงไทยชื่อว่า น.ส.แพนเค้ก (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ซึ่งถูกหลอกให้ไปทำงานอยู่ที่เมืองปางซาง เมืองหลวงของเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และได้รับการช่วยเหลือส่งตัวกลับไทยผ่านด่านพรมแดน สะพานข้ามลำน้ำสายไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย

การช่วยเหลือ น.ส.แพนเค้ก (นามสมมติ) สาววัยเบญจเพส มีขึ้นหลังจาก ศพดส.ตร.ได้รับแจ้งว่า น.ส.แพนเค้กได้ถูกชักชวนผ่านทางแอปพลิเคชัน TIKTOK ให้ไปทำงานที่สถานบันเทิง KTV จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย แต่เมื่อเดินทางไปถึงท่าขี้เหล็ก ได้ถูกตัวแทนหลอกขายให้กับนายทุนจีน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.พนัญชัย ร่วมกับชุดสืบสวน ศพดส.ตร.และด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ภ.จว.เชียงราย สภ.แม่สาย ประสานไปยังเขตรัฐฉาน กระทั่งวันที่ 26 พ.ค.เจ้าหน้าที่ตรวจพบสถานที่ที่ น.ส.แพนเค้ก ถูกกักตัวเอาไว้ที่เมืองปางซางของชนกลุ่มน้อยว้าแดง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงได้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านจนถึงวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.แพนเค้ก ได้รับความช่วยเหลือจากทางการเมียนมาและได้ส่งตัวมายัง จ.ท่าขี้เหล็ก และหลังจากผ่านกระบวนการต่างๆ ในประเทศเมียนมาแล้ว ทางการ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ส่งมอบตัวมาให้เจ้าหน้าที่ไทยผ่านทางสะพานข้ามลำน้ำสายไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ในช่วงเช้าวันนี้

พล.ต.ท.พนัญชัยกล่าวว่า ทาง ศพดส.ตร.ได้รับแจ้งเหตุใน Inbox ของ ศพดส.ตร.เมื่อวันที่ 26 พ.ค.จึงได้พิสูจน์ตัวตนและติดต่อจนทราบว่าถูกหลอกอยู่ในต่างประเทศจริง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงสั่งการให้ช่วยเหลือดังกล่าว เบื้องต้นเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อไปอยู่ต่างประเทศแล้วและกำลังเจรจากับผู้จ้างขอไม่ทำงานนั้นๆ รวมทั้งขอกลับประเทศด้วย ซึ่งระหว่างการจราจาจึงถูกส่งไปในที่พักโดยมีอาหารวันละ 1 มื้อ กระทั่งเจ้าหน้าที่ประสานงานเข้าช่วยเหลือได้ในที่สุด

ส่วนขั้นตอนต่อไปคือจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ หากเป็นการค้ามนุษย์ก็จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ แต่หากไม่ใช่การค้ามนุษย์ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ขอฝากความห่วงใยไปยังประชาชนที่กำลังหางานทำให้พิจารณาผู้รับสมัครงานและรายละเอียดต่างๆ ให้ดีเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายที่จะหลอกลวงไปทำงานที่ผิดกฎหมาย และหากประชาชนพบเบาะแสใดๆ สามาถแจ้งได้ที่ ศพดส.ตร.ทางสายด่วาน 1599 หรือเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/antihumantraffickingpolice ได้.