xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเพชรบุรีโอด! เจอแล้งหนักทำทุเรียนยืนต้นตาย ชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบุรี - ชาวสวนทุเรียนเมืองเพชรบุรีเจอภัยแล้งหนัก ส่งผลให้ทุเรียนยืนต้นตายนับ 1,000 ต้น ชาวบ้านขาดน้ำอุปโภคบริโภค วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายณัฐพงษ์ พวงประเสริฐ อายุ 36 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.9 บ้านปางไม้ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายเพลิน ฤทธิ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านป่าเด็งเหนือ พร้อมด้วยชาวสวนทุเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนหนักเนื่องจากน้ำในแม่น้ำปราณบุรี และน้ำในลำห้วยโสก ในพื้นที่ ม.1 บ้านป่าเด็งเหนือ ม.9 บ้านปางไม้ ม.8 บ้านเขาแหลม และพื้นที่ ม.10 บ้านป่าผาก ต.ป่างเด็ง อ.แก่งกระจาน รวม 4 หมู่บ้าน น้ำในลำห้วยแห้ง ชาวสวนไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตร ทำการปศุสัตว์เลี้ยงโคนม 

เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักเป็นวงกว้าง ต้นทุเรียนกว่า 1,000 ต้น ยืนต้นตาย ลูกทุเรียนไม่สมบูรณ์ตกหล่นเสียหาย ต้นเงาะใบไหม้กำลังจะยืนต้นตาย พืชผลทางการเกษตรเริ่มแห้งเหี่ยวเนื่องจากไม่มีน้ำทำการเกษตร อีกทั้งบ่อน้ำที่ชาวสวนขุดไว้กักเก็บน้ำใช้แห้งลงอย่างหนัก ชาวสวนทุเรียน และชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือด่วน

ด้านนายเดช ทับจิตย์ อายุ 65 ปี ชาวสวนทุเรียน ม.1 บ้านป่าเด็งเหนือ เปิดเผยว่า ปีนี้ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งหนัก น้ำในแม่น้ำ และลำห้วยแห้งทั้ง 2 ฝั่ง ไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตร ผลผลิตทุเรียนไม่เติบโต ยืนต้นตายหลายสิบต้น จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งเข้ามาช่วยเหลือขุดสระน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำ 

นางคำพอง โสวาธี อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.10 บ้านป่าผาก ที่ปลูกพืชสวน กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำแห้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำปราณบุรี ลงไปปลายน้ำ ปกติน้ำในลำห้วยต้นน้ำปราณบุรีใช้ทำการเกษตรอยู่ประจำ แต่ปัจจุบันน้ำแห้งหมดแล้ว คงต้องคอยฝนตกลงมา

นายณัฐพงษ์ พวงประเสริฐ์ อายุ 36 ปี ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ฝนทิ้งช่วงมาหลายเดือนแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่มีการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว มาเป็นปลูกพืชผสมผสาน ทุเรียน เงาะ กล้วย ขนุน และต้องใช้น้ำเป็นตัวหลักในการเพาะปลูก ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเกษตรกรบางรายที่มีกำลังทรัพย์ก็ขุดลอกลำห้วยเพื่อเอาน้ำไปใช้ในที่ของตัวเอง ชาวบ้านส่วนมากทาง อบต.ป่าป่าเด็ง ได้ดำเนินการส่งน้ำให้ชาวบ้านให้ใช้อุปโภคบริโภค ส่วนในภาคการเกษตรน้ำยังไม่เพียงพอ ในพื้นที่โซนล่าง ม.5 ม.6 ม.7 ม.2 ม.3 ม.4 เป็นพื้นที่ทำการปศุสัตว์เป็นโครงการสหกรณ์โคนมวัวเป็นหลัก

หากสถานการณ์น้ำยังแล้งอยู่แบบนี้อาจจะนำไปสู่วิกฤตเรื่องของโรคระบาดได้ในอนาคต โดยประชากรในพื้นที่ตำบลป่าเด็ง มี 10 หมู่บ้าน พื้นที่ที่วิกฤตคือ ม.10 บ้านป่าผาก ม.8 บ้านเขาแหลม เพราะแม่น้ำห้วยโสก ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลเฉพาะหน้าแล้งอย่างเดียว บางจุดขุดลงไปกว่า 4 ชั่วโมง ยังไม่เจอน้ำ ชาวบ้านได้มีการปลุกขนุน ทุเรียน พอน้ำแห้งต้นทุเรียน ขนุนยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งน้ำที่ไหลมาเติมในลำห้วยไม่เพียงพอ บางจุดสูบน้ำได้เพียง 5-10 นาทีน้ำก็หมดแล้ว

หากไล่ระดับลงไปคือ พื้นที่ป่าต้นน้ำปราณบุรีพอไหลลงไป ม.7, 6, 5, 4, 3, 2 ต่างใช้น้ำในลำน้ำปราณบุรีเป็นหลัก หากพื้นที่ต้นน้ำดึงน้ำไปใช้ในภาคการเกษตรและครัวเรือน พื้นที่ด้านล่างคงหนีไม่พ้นเรื่องขาดแคลนน้ำใช้ไม่เพียงพอแน่นอน ชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 7,000 ราย 2,500-3,000 ครัวเรือน คงไม่มีน้ำใช้ทำเกษตร และอุปโภค บริโภคแน่นอน








กำลังโหลดความคิดเห็น