จันทบุรี - รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์น้ำในแหล่งกักเก็บน้ำสำคัญก่อนเข้าสู่ฤดูฝน เตือนเกษตรกรและประชาชนใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าหลังกรมอุตุฯ เตือนอาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง
วานนี้ (12 พ.ค.) นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและประเมินสถานการณ์น้ำก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในแหล่งกักเก็บน้ำหลายแห่งเพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่
โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำที่อ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งนายกสมาคมชาวสวนลำไย ได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการกักเก็บน้ำที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้พืชผลทางการเกษตรของชาวสวนริมขอบอ่าง ฝั่งอำเภอสอยดาวบางส่วนเสียหาย
และขณะนี้สมาคมฯ ยังอยู่ระหว่างการร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหาแนวทางเยียวยารวมทั้งให้การช่วยเหลือ โดย
ขณะที่ปริมาณการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธมีปริมาณเพียงพอในการใช้อุปโภคบริโภค และการเกษตร
ส่วนการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อนคิรีธาร และการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำที่มุ่งเน้นป้องกัน แก้ไขปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูแล้ง ลดผลกระทบประชาชนผู้ใช้น้ำตลอดลุ่มแม่น้ำจันทบุรี และลุ่มน้ำเวฬุ พบว่าปริมาณน้ำที่กักเก็บมีเพียงพอในการอุปโภคบริโภค
แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำที่จะเข้ามาเติมใหม่ในช่วงฤดูฝน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศว่าประเทศไทยจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง เบื้องต้นได้ฝากเตือนประชาชนผู้ใช้น้ำ รวมทั้งเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และควรจัดทำพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภคให้เพียงพอ
นอกจากนั้น ยังจะมีการวางแผนงานจัดสรรน้ำหลังการผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอแก่ประชาชนผู้ใช้น้ำ เช่น การจัดการแหล่งน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาในเขตอำเภอเมือง การบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภค และการเกษตรแก่เกษตรกรทั้งใน อ.มะขาม อ.เมือง และ อ.ขลุง รวมทั้งพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย