สุรินทร์ - โอ้โห! สองสามีภรรยาครูเมืองช้างใช้เวลานอกราชการเพาะเลี้ยง “ตั๊กเเตน” ภาษาท้องถิ่นสุรินทร์เรียก “กะโน้บ” ขายทั้งตัวและไข่สร้างรายได้งาม เผยไข่ตั๊กแตนกิโลฯ ละหมื่น แถมมีออเดอร์ไม่ขาดสายสั่งซื้อทางออนไลน์เพียบ มีเท่าไหร่ไม่พอส่งขาย
ตั๊กแตน หรือภาษาเขมรท้องถิ่นสุรินทร์เรียกว่า “กะโน้บ” ถือเป็นแมลงที่ถูกขนานนามว่าเป็นศัตรูพืชอันดับต้นๆ ของเกษตรกร เพราะพวกมันจะกัดกินและทำลายพืชผลทางการเกษตร จึงทำให้ต้องใช้วิธีฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแทน ผู้ที่ได้รับผลกระทบตามมาก็คือผู้บริโภคผลผลิตเหล่านั้นที่เสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาฆ่าแมลงเข้าสู่ร่างกาย เเต่ปัจจุบันได้กลับกลายมาเป็นอาชีพสร้างรายได้อีกทางเลือกหนึ่งให้แก&ผู้ที่สนใจเลี้ยงตั๊กเเตนขาย และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่าง
นายสมพงษ์ เชื้อทอง อายุ 53 ปี เเละ นางมณีวรรณ เชื้อทอง อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา อาชีพข้าราชการครู ได้ตัดสินใจใช้บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านกาเเฟเล็กๆ และหลังร้านทำเป็นสวนองุ่น อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 10 บ.พรหมสะอาด ต.พระเเก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ติดถนนหลัก สาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดม อุบลราชธานี ช่วง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กับ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นสถานที่เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า เพื่อหวังสร้างอาชีพใหม่ทำรายได้ให้ครอบครัวอีกช่องทางหนึ่ง
โดยศึกษาวิธีเลี้ยงมาจากสื่อออนไลน์ แล้วติดต่อขอซื้อไข่ตั๊กแตนมาทดลองเลี้ยงจนเริ่มประสบความสำเร็จ รวมไปถึงการเพาะพันธุ์เพื่อขายต่อตามท้องตลาด ปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่ามีเท่าไรก็ไม่พอขายเลยทีเดียว
นายสมพงษ์ เชื้อทอง กล่าวว่า ตนเเละภรรยามีอาชีพรับราชการครู มีลูกสาว 2 คน ได้คิดหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้ตนเอง เเละให้ลูกได้มีรายได้ จึงอยากทดลองเลี้ยงอะไรใหม่ๆ ปกติก็เปิดร้านกาเเฟ เเละเลี้ยงวัวจำนวน 13 ตัว พร้อมกับทำสวนองุ่น ซึ่งใช้เวลานอกราชการมาทำอาชีพนี้ จากนั้นได้เริ่มทำการศึกษาหาความรู้ผ่านทางโลกโซเชียลมีเดีย จนมาพบวิธีการเพาะเลี้ยงตั๊กแตน จึงทดลองสั่งซื้อหามาเลี้ยง โดยซื้อไข่ตั๊กแตนมา 1 ขีด ราคาขีดละ 1,000 บาท เพาะได้ 500 ตัว
จากนั้นให้ตั๊กแตนที่เพาะได้ผสมพันธุ์กันเอง แล้วออกไข่รุ่นใหม่มาแล้วก็ขยายพันธุ์ต่อ เเต่ต้องระวังพวกมดที่จะมากินซากตั๊กเเตน เพราะถ้ากินจะตายยกคอก เดิมทีเริ่มต้นจากการเลี้ยงเพื่อเอาไว้กินเอง แต่ล่าสุดมีคนสนใจสั่งซื้อตั๊กแตนทางออนไลน์ และสั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตอนนี้เริ่มที่จะได้ส่งขายอย่างต่อเนื่องแล้ว
สำหรับขั้นตอนของการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า หรือตั๊กแตน ซึ่งภาษาพื้นถิ่นสุรินทร์นั้นจะเรียกว่า “กะโน้บ” โดยเริ่มจากการเตรียมสถานที่เลี้ยง ซึ่งต้องเลี้ยงในระบบปิด โดยใช้มุ้งตาข่ายขนาดเล็กทำเป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงรูปทรงสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร ปูพื้นด้วยทรายผสมกากมะพร้าว จากนั้นนำไข่ตั๊กแตนมาเพาะไว้ เมื่อตั๊กแตนฟักออกมาแล้วเริ่มให้อาหารโดยการใช้ใบไม้อย่างใบกล้วยหรือหญ้า จากนั้นฉีดพรมน้ำเช้าเย็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
รอให้ตั๊กแตนมีอายุ 45 วัน จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่มาให้ได้เก็บ โดยจะใช้วิธีการนำกระบะทรายมาวางไว้เพื่อให้ตั๊กแตนมาวางไข่แล้วทยอยเขี่ยเก็บ การเก็บจะเริ่มทยอยเก็บครั้งหนึ่ง แล้วเว้นไว้อีก 2-3 วันค่อยมาเก็บใหม่ และเมื่อตั๊กแตนอายุได้ 45 วันก็จะเริ่มทยอยจับตัวส่งขายแล้วนำชุดใหม่มาเลี้ยงแทน แต่ละโรงเรือนถ้าโรงเรือนขนาดนี้ สามารถเลี้ยงตั๊กแตนได้เป็นหมื่นๆ ตัว ซึ่งตอนนี้ตนเพาะตั๊กเเตนอยู่ 3 คอก
"สำหรับราคาการซื้อขายตั๊กแตนในตอนนี้นั้น ราคาขายแบบเป็นตัว ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 450 บาท แต่หากขายเป็นไข่ตั๊กแตนราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือขีดละ 1,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพใหม่ที่ดีอย่างมาก เพราะมีค่าตอบแทนที่ดี ตลาดต้องการสูง เพราะตั๊กแตนถือเป็นอาหารโปรตีนชั้นดีที่คนนิยมรับประทานกัน อีกทั้งขั้นตอนการเลี้ยงก็ง่าย ลงทุนต่ำด้วย ตอนนี้มีลูกค้าทั้งขาประจำ เเละขาจรมาติดต่อขอซื้อกันไม่ขาด หากท่านใดสนใจสั่งซื้อหรือจะลองเพาะเลี้ยง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 09-5745-0005 ผมพร้อมที่จะให้คำแนะนำ" นายสมพงษ์ เชื้อทอง กล่าวในตอนท้าย