xs
xsm
sm
md
lg

ญาติร้องสื่อ-ขอทนายอาสาช่วย! รถเสยท้าย จยย.หน้าโรงพัก สามีซ้อนท้ายดับคู่คนขับ กว่า 7 เดือนคดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ญาติผู้เสียชีวิตร้องสื่อฯ ช่วยตามคดี..หนุ่มช่างซ่อมลองรถลูกค้าเกิดเสยท้าย จยย.ชาวลำปาง เตรียมยูเทิร์นหน้าโรงพักดับคาที่ทั้งคู่ ผ่านมากว่า 7 เดือนคดีไม่คืบ-ไม่ถึงมืออัยการ แม้แต่ค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.ยังไม่ได้ ครอบครัวผู้ตายเดือดร้อน


ภรรยากับลูกสาว นายวีระ อ่ำน้อย คือ น.ส.ประวีณา ทิพย์มาบุตร อายุ 43 ปี และ น.ส.ปณิชา ทิพย์มาบุตร อายุ 17 ปี ภรรยากับลูกสาว อยู่บ้านเลขที่ 303 หมู่ 2 หมู่บ้านเหล่าบุญเกิด ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณีนายวีระนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบ้านออกไปบริเวณถนนเลี่ยงเมือง หน้า สภ.เขลางค์นคร แล้วถูกรถยนต์เฉี่ยวชน เสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565

เวลาผ่านมากว่า 7 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้ ขณะที่คู่กรณีไม่ได้ช่วยเยียวยาใดๆ มีเพียงการนัดเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 2 ครั้ง ซึ่งก็ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากคู่กรณีขอผ่อนชำระเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี แต่ผู้เสียหายไม่สามารถยอมรับได้ เพราะภรรยาผู้ตายก็พิการตาบอด มีรายได้เพียงเดือนละ 800 บาท และยังมีลูกสาวอยู่ระหว่างการศึกษา ยังไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ครอบครัวขาดเสาหลักคือผู้ตายที่เป็นผู้ที่หาเงินจากการเปิดร้านอู่ซ่อมรถยนต์เพียงคนเดียว

น.ส.ประวีณา ภรรยาของผู้ตายซึ่งพิการทางสายตา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาครอบครัวเดือนร้อนมาก เนื่องจากขาดเสาหลักของครอบครัวคือสามี ตนไม่มีอาชีพเพราะพิการทางสายตา ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ อยู่เป็นเพื่อนหลานเท่านั้น รายได้ก็มีเพียงเงินช่วยเหลือผู้พิการเดือนละ 800 บาท ลูกสาวก็ยังเรียนหนังสือไม่มีรายได้อะไร คดีความก็ไม่คืบหน้า ประกันก็ไม่ยอมจ่ายเงินอ้างว่าต้องถึงชั้นศาลก่อน

แต่ขณะนี้กว่า 7 เดือนแล้ว ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้อง ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมากเพราะไม่มีรายได้ ญาติพี่น้องต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ต้องคอยแบ่งปันมาช่วยเหลือ จึงได้ร้องขอให้ทางทนายความอาสามาช่วยเหลือเรื่องคดี

ขณะที่นายเอกสิทธิ์ มานะรุ่งโรจน์ ทนายความที่เข้าช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสำนวนส่งอัยการ ซึ่งถือว่าใช้เวลานานมากสำหรับคดีอุบัติเหตุ ขณะที่ตนยังสงสัยคำให้การของคู่กรณีที่ขับรถยนต์ชน อ้างว่าผู้ตายสองคนขี่ตัดหน้าเพื่อข้ามถนน

แต่เท่าที่ดูจากภาพที่เกิดเหตุจะเห็นว่าผู้ตายทั้งคู่ขี่จักรยานยนต์ข้ามกึ่งกลางถนนไปอีกฝั่งเพื่อจะยูเทิร์นแล้ว แต่รถยนต์คันดังกล่าวขับมาพุ่งชนด้านหลังรถจักรยานยนต์ และอ้างว่ามีกล้องหน้ารถ แต่ทำไมไม่ให้ผู้เสียหายดู

“ครอบครัวผู้เสียหายรายนี้เป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไม่ใช่คนขับ อย่างไรกฎหมายก็คุ้มครอง แต่ขณะนี้แม้แต่เงินชดเชย ในส่วนของ พ.ร.บ.ภาคบังคับ ซึ่งควรจ่ายให้กับผู้ตายก็ยังไม่สามารถจ่ายได้ ทำให้ครอบครัวผู้ตายต้องหยิบยืมเงินญาติมาใช้ตั้งแต่งานศพและค่าใช้จ่ายประจำวัน”

นายเอกสิทธิ์บอกว่า ตนเองก็ได้ติดตามคดีให้ตลอดแต่ก็ยังไม่คืบหน้า ทาง จนท.ตร.อ้างว่าเพราะผู้ตายเป็นต่างด้าวหรือไม่ถึงยังไม่ได้เงิน ซึ่งตนเห็นว่าไม่เกี่ยว จะต่างด้าวหรือคนทั่วไปเมื่อเสียชีวิตก็ต้องรีบดำเนินการเรื่องค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.ให้ก่อนเป็นอันดับแรก แต่ขณะนี้กระบวนการของตำรวจก็ยังไม่เสร็จไม่ทราบเหมือนกันว่าล่าช้าด้วยสาเหตุใด


สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 ก.ย. 2565 บนถนนเลี่ยงเมือง (หน้า สภ.เขลางค์นคร) ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ร.ต.อ.ณัฐนันท์ คำสาร รอง สว.(สอบสวน) พงส.เวร สภ.เขลางค์ ได้ถ่ายภาพทำแผนที่ตรวจที่เกิดเหตุดังกล่าวไว้ ซึ่งมีรถได้รับความเสียหายทั้ง 2 คัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

คู่กรณี 1 เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน ขจว 363 ลำปาง ขับขี่มาจากถนนหมู่บ้านเหล่าบุญเกิด เลี้ยวมาทางขวาเข้าสู่ถนนสายหลัก (เลี่ยงเมือง) ขับขี่เพื่อจะยูเทิร์นกลับรถด้านหน้า ผู้ขับขี่คือ นายสุพล กาอินต๊ะ อายุ 66 ปี ที่อยู่ 11 หมู่ 14 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง และผู้โดยสารนั่งซ้อนท้ายมาด้วย คือ นายวีระ อ่ำน้อย อายุ 44 ปี ที่อยู่ 303 หมู่ 2 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง เสียชีวิตทั้งคู่ในที่เกิดเหตุ

คู่กรณีที่ 2 เป็นรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน ขต 156 เชียงใหม่ ผู้ขับขี่คือ นายกฤตพัส อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่เมืองลำปาง มีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถยนต์ ขณะที่รถคันดังกล่าวเป็นของลูกค้าที่นำมาซ่อมและได้ขับออกมาลองระบบเครื่องยนต์ โดยมีบิดานั่งมาด้วย แต่มาเกิดอุบัติเหตุก่อน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ


กำลังโหลดความคิดเห็น