นครสวรรค์ - เผยนาทีหนุ่มใหญ่เมาขั้นสุด..ควบกระบะชนวินาศทั้งร้านอาหารริมทางนครสวรรค์ ลากจักรยานยนต์ ตร.จราจรที่จอดขวางสกัดจับกุมไกลเป็นกิโลฯ แถมพุ่งชนปิกอัพตราโล่ซ้ำ โชคดีไม่มีคนเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยเมาแล้วขับขี่รถยนต์ ซึ่งเป็นขณะ ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม ผบ.หมู่ (จร.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีขาว ทะเบียนตราโล่ 84966 ออกตรวจการจราจรไปถึงบริเวณถนนสี่เจ้าพระยา (ถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยา) ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 22.30 น.
พลเมืองดีได้ตะโกนแจ้งว่า..มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขก 1933 นครสวรรค์ ขับชนร้านอาหารที่อยู่ข้างทางแล้วหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรฯ จึงได้แจ้งวิทยุเพื่อให้สกัด และขับขี่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวที่ขับหลบหนีไปทางถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าตลาดศรีนคร
จนถึงสี่แยกสันคู ขณะติดไฟแดง ด.ต.ปรีชา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรฯ จึงได้นำรถจักรยานยนต์ของทางราชการขี่ไปจอดดักหน้ารถยนต์กระบะเพื่อขวางทางไม่ให้คนขับรถหลบหนี แต่คนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับพุ่งชนแล้วลากรถจักรยานยนต์ของสายตรวจจราจรฯ ติดไปกับใต้ท้องรถฯ เเล้วขับหลบหนีทันที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกระโดดก้าวออกจากรถจักรยานยนต์ทันควัน
ขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถยนต์เช่าของทางราชการ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา-เลือดหมู หมายเลขทะเบียน 1 นง 2935 กรุงเทพมหานคร เพื่อมาจอดขวางทางไม่ให้กระบะหลบหนี แต่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวยังไม่ยอมหยุด ได้ขับพุ่งชนรถยนต์เช่าของ ตร.อีกคัน แล้วขับลากรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนีไปตามถนนนครสวรรค์-โกรกพระ
ด้าน ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม พร้อมด้วยพลเมืองดีได้ควบรถจักรยานยนต์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด กระทั่งรถยนต์ที่หลบหนีได้เลี้ยวตรงจุดกลับรถบริเวณหน้าร้านเบนซ์หมูกระทะ แล้วเสียหลักปีนขึ้นไปบนฟุตปาธ ทำให้รถติดขยับขับต่อไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามและกำลังสนับสนุน พร้อมด้วยพลเมืองดี ที่ช่วยติดตามไป ได้เข้าไปควบคุมตัวผู้ขับขี่ให้ลงจากรถ สอบถามทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายสันติ จึงได้ควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายสันติ (สงวนนามสกุล) ไม่ยินยอมให้ตรวจวัด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายฯ ส่วนการกระทำผิดในความผิดอื่นจะได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามคนที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ได้ ทราบว่าเวลานี้เจ้าตัวไม่ได้อยู่ จ.นครสวรรค์ แต่ก็ได้เล่าเรื่องราวผ่านแชตว่า ขณะนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจ เพราะมีเสียงลากของหนักตามหลังมาอย่างดัง จึงได้หันกลับไปมอง ก็เห็นว่ามีรถกระบะสีขาวกำลังลากรถจักรยานยนต์ ซึ่งอยู่ในสภาพถูกชนล้มคว่ำอยู่ที่หน้ารถมาด้วยความเร็ว และเกิดสะเก็ดไฟมาตลอดทาง โดยมีแสงไฟไซเรนจากรถยนต์ของตำรวจขับไล่ติดตามมาด้วย
และทันทีเมื่อรถกระบะคันก่อเหตุได้แซงรถของตนไป ตนก็ขี่รถไล่หลังตามมาตลอดทาง พร้อมกับถ่ายคลิปบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ กระทั่งมาจุดถึงเลี้ยวแยกยูเทิร์น สังเกตว่ารถกระบะคันที่ก่อเหตุน่าจะวิ่งต่อไปไม่ไหว คนขับจึงติดสินใจเลี้ยวหวังจะยูเทิร์น แต่รถจักยานยนต์ที่ติดอยู่หน้ารถเป็นอุปสรรคในการเลี้ยว จึงทำให้ไม่สามารถขับหนีต่อไปได้
เมื่อถามถึงตอนที่เห็นคนขับลงมาจากรถ ผู้ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ระบุว่า คนขับดูลักษณะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอาการคล้ายคนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และเจ้าตัวบอกกับตำรวจด้วยว่า ไม่ทราบเลยว่าขับรถไปชนอะไรบ้าง แค่รู้สึกเหมือนว่ารถของเจ้าตัวมีปัญหา เร่งเครื่องไม่ค่อยจะไป ส่วนตนในขณะที่ถ่ายคลิปเอาไว้ เมื่อเข้าไปใกล้ตัวผู้ก่อเหตุก็ไม่พบว่ามีกลิ่นเหล้า แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเขาเมาอะไรมา และเห็นว่ามีตำรวจเข้ามาดำเนินการแล้ว จึงได้ขับขี่รถออกจากจุดที่พบเหตุเพื่อกลับบ้าน
ด้านนายทรงศักดิ์ จันทฤก อายุ 39 ปี ลูกเจ้าของร้านอาหารริมทางที่ถูกรถกระบะชนได้รับความเสียหาย เล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งล้างจานอยู่ข้างร้าน ส่วนแม่ก็เดินไปเก็บของอีกที่ จึงไม่ได้ถูกชนบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนรถกระบะคันที่ก่อเหตุ ตนเห็นคาตาขณะที่กำลังล้างจานว่าขับแหกโค้ง แล้วก็พุ่งเข้ามาชนร้านของตน จนร้านได้รับความเสียหาย ทั้งล้อรถเข็นงอ มีเหล็กหักหลายท่อน และข้าวของอื่นๆ หล่นกระจัดกระจาย แต่เคราะห์ดีที่ตอนนั้นร้านตนปิด และเก็บของที่เอาไว้ขายไปหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นคงได้รับความเสียหายมากกว่านี้แน่
“ตอนนี้ร้านต้องปิดขายชั่วคราวไปก่อน เพราะรถเข็นขายของไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งก็ไม่ได้ขายของมา 2 วันแล้ว ส่วนทางคดี แม่เป็นคนไปตามเรื่องกับทางตำรวจ ทราบว่าทางผู้ก่อเหตุขับรถมาชนนั้นเมาจริง โดยมีหลักฐานแก้วเยติบรรจุเบียร์วางอยู่ในรถ และหลังเกิดเหตุได้มีการเจรจาเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งทางผู้ก่อเหตุรับปากว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด แต่ราคาตอนนี้ยังไม่ได้ระบุไป เพราะต้องรอให้ช่างที่รับซ่อมรถเข็นมาดูสภาพความเสียหาย แล้วตีราคาค่าซ่อมก่อน”