xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “ไก่ ก้าวไกล-ศิษย์เก่า พพ.รุ่น 38-41” ว่าที่ ส.ส.เขต 5 เมืองสองแคว หน้าใหม่การเมืองพิษณุโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - “ไก่ ศิษย์เก่า พพ.รุ่น 38-41” ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล เขต 5 เมืองสองแคว หน้าใหม่วงการเมืองพิษณุโลก เผยที่มาแห่งชัยชนะ แม้ไม่มีระบบหัวคะแนน-ใช้ทีมงาน 3 คน-รถแห่ 4 คัน ชี้ชาวบ้านเบื่อการเมืองเก่า-กั๊กสัญญา-เข้าถึงยาก-พูดแล้วไม่ทำ-เงื่อนไขเยอะ

ผลการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลกทั้ง 5 เขต ปรากฏว่า เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง พรรคก้าวไกล เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแชมป์เก่ากันทั้งคู่ต่างรักษาเก้าอี้ ส.ส.ไว้ได้อีกสมัย ส่วน เขต 3 นายพงษ์มนู ทองหนัก สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถโค่นแชมป์เก่า คือ นายอนุชา น้อยวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้สำเร็จ

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ อดีต ส.ส.แชมป์เก่าเขต 4 ถูกโค่น เพราะทานกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ได้ คือ นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ หรืออดีต ส.จ.ปานทิพย์

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ น้องใหม่วงการการเมืองพิษณุโลก ที่สวมเสื้อพรรคก้าวไกล ลงสนามเขต 5 สามารถแจ้งเกิดทางการเมืองเป็นว่าที่ ส.ส.ได้สำเร็จ

นายศุภปกรณ์ หรือไก่ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงที่มาของความสำเร็จว่า ตนไม่มีระบบหัวคะแนน มีทีมงานหาเสียงเพียง 3 คน และรถแห่ 4 คันเท่านั้น หากถามว่า เสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งนี้เท่าใด บอกได้เลยว่าไม่ถึง 500,000 บาท

คะแนนเสียงที่ได้มานั้น อาจเป็นเพราะชาวบ้านเบื่อนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ชอบกั๊กคำพูด สัญญาต่างๆ พูดแล้วทำไม่ได้ หากได้รับเลือกตั้งแล้ว หรือผ่านพ้นวันลงคะแนนไปแล้ว ชีวิตมักเปลี่ยนไป คือ เข้าถึงยาก จะบอกเงื่อนไขต่างๆ เยอะ เรียกว่าทำไม่ได้ แต่สำหรับตนนั้น ทำการเมืองมา 3 ปีแล้ว อาจเรียกว่าเป็นผู้แทนของชาวบ้านหรือทำงานมาก่อน เช่น เรื่องมะม่วงราคาตกต่ำตนก็ลงไปดูแล หรือปัญหาความเดือดร้อนก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างจริงจัง

“ยอมรับว่าผมไม่ได้ไปงานบุญงานบวชหรืองานศพเลย ถามว่าแล้วชาวบ้านรู้จักตรงไหน นั่นแหละคือคำตอบของการเมืองรูปแบบใหม่ ใช้ผลงานที่ทำกับชาวบ้านมานาน จับงานเป็นชิ้นหลักๆ เรียกว่าทำการเมืองที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน อย่าไปพูดอะไรที่ชาวบ้านเข้าใจยาก ลงมือทำเลย”

แต่ที่สำคัญ ความสำเร็จวันนี้ต้องชื่นชมพี่น้องชาวบ้าน ที่เริ่มสนใจการเมือง เพราะเขาเบื่อโครงสร้างระบบเก่าๆ..ประเภทที่ว่าต้องถามนายก่อน ต้องถามหัวหน้าก่อน และชาวบ้านเขาไม่ชอบคำหวานหรือคำพูดของนักการเมืองอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ชื่อเล่น ไก่ อายุ 42 ปี คนอำเภอนครไทยแท้ๆ เป็นลูกคนเล็ก (คนที่ 3) ของนายประสงค์ สระคู ปัจจุบันอายุกว่า 70 ปี อดีตประธานสภา อบจ.พิษณุโลก ซึ่งสมัยนั้น "ไก่" ยังเรียนหนังสืออยู่ จบประถมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม รุ่น 38-41 จากนั้นไปจบปริญญาตรี นิติศาสตร์รามคำแหง และยังจบปริญญาตรีอื่นๆ รวม 3 ใบ 

สำหรับภาพการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก ทั้ง 5 เขตเลือกตั้งนั้น พรรคเพื่อไทยได้ 2 ที่นั่ง พรรคก้าวไกล 2 ที่นั่ง และพรรครวมไทยรักษาชาติ 1 ที่นั่ง

เขตเลือกตั้งที่ 1 แชมป์เก่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง ได้คะแนน 40,198 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 นายอดุลย์วิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ หรือ ส.จ.อั้ม อดีต ส.จ.พิษณุโลก ที่ได้คะแนน 18,685 คะแนน และอันดับ 3 น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท พรรคเพื่อไทย ที่ได้ 17,778 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 2 แชมป์เก่า พรรคเพื่อไทย นายนพพล เหลืองทองนารา อดีต ส.ส.ในพื้นที่ 2 สมัย ได้คะแนน 30,819 นำโด่งนายมีดี บัวแก้ว พรรคก้าวไกล ที่ได้ 23,516 คะแนน อันดับ 3 นายอิทธิพล บุบผะศิริ พรรคภูมิใจไทย มี 17,843 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 3 แชมป์เก่า คือ นายอนุชา น้อยวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้ได้คะแนน 18,208 คะแนน พ่ายแพ้แก่นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรองนายก อบจ.พิษณุโลก ที่ได้อันดับ 1 ด้วยคะแนน 22,277 คะแนน ลำดับ 3 คือ นายจเด็ศ จันทรา มีคะแนน 20,620 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย เคยผูกขาด ส.ส.ในเขตนี้ กลับได้ลำดับ 2 ด้วยคะแนน 24,310 คะแนน ตามหลังพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ หรือ ส.จ.ปานทิพย์ ที่เข้าวินด้วยคะแนน 25,626 คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ 5 นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ทำคะแนนอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 22,222 คะแนน ลำดับที่ 2 คือ นายเอกพงษ์ กุลเจริญ พรรคพลังประชารัฐ 16,558 คะแนน ลำดับที่ 3 พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค พรรครวมไทยสร้างชาติได้ 14,610 คะแนน
กำลังโหลดความคิดเห็น