xs
xsm
sm
md
lg

แชร์ว่อนจับ อสม.เกาะสำโรง พร้อมโพยรายชื่อ เงินสด 71,000 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - เริ่มปฏิบัติการซื้อเสียงกันแล้วเมืองกาญจน์ หลังคลิปแชร์ว่อนจับ อสม.เกาะสำโรง พร้อมเงินสด 71,000 บาท และโพยรายชื่อ 28 แผ่น อ้างเป็นเงินที่ผู้ใหญ่อ้อยจ้างแจกซื้อเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.ตัวเต็ง พรรคดัง

วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้หวังดีต่อการเลือกตั้งได้ส่งคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่อ้างว่าเป็นปฏิบัติการเข้าตรวจค้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สส.กาญจนบุรี เขต 1 โดยในคลิปภาพเป็นภาพของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเฝ้าระวังการซื้อสิทธิขายเสียง เข้าตรวจค้นจับกุมหญิงรายหนึ่งที่เป็น อสม.ในเขตพื้นที่ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี

โดยเป็นปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสว่า หญิงคนดังกล่าวรับหน้าที่นำเงินจากหัวคะแนนของผู้สมัครพรรคใหญ่ รายหนึ่ง ของเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ผู้ที่มีรายชื่อตามโพยรายชื่อรับเงิน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้น หญิงคนดังกล่าวพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยเงินจำนวน 3,000 บาท แลกกับการไม่จับกุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอมและได้เข้าไปตรวจหากระเป๋าที่บรรจุเงินและโพยรายชื่อที่ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านจนพบ

หลังปฏิบัติการตรวจพบเจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงคนดังกล่าวพร้อมโพยรายชื่อ และเงินของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้น ทราบว่า คลิปภาพดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านวังยาง หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 8 พ.ค.66 ผู้หญิงในภาพคือ นางเอ (นามสมมติ) เป็น อสม.ประจำหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกจับกุมเมื่อมีการตรวจค้นในบ้านพักพบกระเป๋าถือสีแดงลายนก โดยในกระเป๋าตรวจพบเอกสารโพยรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหมู่บ้าน หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง จำนวน 28 แผ่น และพบเงินสด 71,000 บาท

นางเอ ให้การต่อ พ.ต.ท.ราม จันทร์สุทนพจน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ก่อนเกิดเหตุจำวันเวลาไม่ได้ ขณะที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักอาศัย ได้มีผู้ใหญ่อ้อย มาติดต่อให้ช่วยผู้สมัคร ส.ส.รายหนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ใหญ่อ้อยได้โทรศัพท์มาหาตนแจ้งว่า เงินพร้อมรายชื่อมาให้ และจะให้ค่าตอบแทนหัวละ 30 บาท โดยยังไม่แจ้งว่าให้จะนำเงินมาให้จำนวนเท่าไหร่ ต่อมา วันที่ 8 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่ตนอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวห่างจากบ้านประมาณ 20-30 เมตร ผู้ใหญ่อ้อยได้โทรศัพท์ติดต่อหาตน และได้สอบถามว่าอยู่บ้านไหม จะให้คนนำเงินมาให้

จากนั้นไม่นานประมาณ 10-15 นาที ได้มีชายสวมหมวกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว และแวะบริเวณหน้าบ้านพักของตน และเดินไปที่รถจักรยานยนต์และนำถุงพลาสติกแขวนไว้ที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้าน ตนเห็นดังนั้นจึงเดินจากร้านก๋วยเตี๋ยวมาที่บ้านพัก เมื่อเดินมาถึงชายดังกล่าวได้ชี้ไปที่รถจักรยานยนต์ของตน และได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปทันที ตนจึงได้ไปหยิบถุงพลาสติกที่แขวนไว้ที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ และได้เปิดถุงพลาสติกดูปรากฏว่าเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง ไม่ทราบว่าจำนวนเท่าใด พร้อมบัญชีรายชื่อ

จากนั้นจึงได้นำเงินและบัญชีร่ายชื่อมาใส่ไว้ในกระเป๋าถือสีแดง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามว่าเงินพร้อมบัญชีรายชื่อว่าได้มาอย่างไร ตนจึงได้แจ้งรายละเอียดดังกล่าวข้างต้นให้เจ้าหน้าที่ทราบ เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง ให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตนจึงได้สมัครใจมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมนำเงินมามอบให้พนักงานสอบสวน เป็นเงินจำนวน 71,000 บาท พร้อมบัญชีรายชื่อ 28 แผ่น และให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใหญ่อ้อย ที่ใช้ติดต่อตนให้พนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 นางเอ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลต่อพนักงานถึงแหล่งที่มาของเงินว่ามาจากหัวคะแนนของผู้สมัครรายใด เพื่อจะได้ทำการสอบสวนขยายผลเอาผิดไปถึงหัวคะแนน และหากผลการสืบสวนมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้สมัครจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายการเลือกตั้งต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น