ลำพูน - สาวพนักงานห้างสรรพสินค้าดังลำพูน จอดรถรมควันฆ่าตัวตาย คาดเครียดปัญหาหนี้สินรุมเร้า พบเงินติดกระเป๋า 20 บาท พร้อมหนังสือสัญญากู้ยืมเงินเพื่อนร่วมงานหลายคน
วันนี้ (10 พ.ค. 66) ร.ต.อ.สุพจน์ นุกาศ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งเหตุคนรมควันเสียชีวิตภายในรถเก๋ง บริเวณถนนราชวงศ์ ด้านทิศเหนือศาลากลางจังหวัดลำพูน(หลังเก่า) ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำพูน แพทย์เวร รพ.ลำพูน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยร่วมใจลำพูน
จุดเกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ทะเบียนลำพูน จอดอยู่และล็อกประตูไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานช่างเปิดกุญแจมาทำการเปิดประตู ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงยังเปิดไม่ได้ ช่างกุญแจจึงได้ทำการนำธูปจำนวน 9 ดอกมาจุดเพื่อบอกกล่าวและขอขมาผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดได้ จึงได้แจ้งให้ญาติกลับไปนำกุญแจสำรองที่บ้านมาเปิดจึงสามารถเปิดได้
พบร่างหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวสุจิตรา หรือยุ้ย สวมเสื้อสัญลักษณ์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของลำพูน แขนสั้นสีดำ กางเกงขายาว นอนหงายบริเวณเบาะนั่งคนขับ คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง นอกจากนั้น บริเวณที่พักเท้าด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสารพบเตาอั้งโล่ขนาดเล็กวางอยู่ มีร่องรอยของการจุดถ่านและมีขี้เถ้าอยู่ จึงคาดว่านางสาวสุจิตราได้ทำการรมควันตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกระเป๋าถือของผู้เสียชีวิต พบว่ามีเงินติดกระเป๋าเพียง 20 บาท นอกจากนั้นยังพบหนังสือสัญญากู้ยืมเงินหลายฉบับ มียอดตั้งแต่ 300 บาท 1,500 บาท และ 10,000 บาท ซึ่งทราบว่าได้ทำการยืมเงินจากเพื่อนร่วมงานหลายคน เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียด ก่อนจะคิดสั้นดังกล่าว
สอบถามนางอรุณี น้าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกตินางสาวสุจิตราเป็นคนร่าเริงแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง ยังไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับตัวเอง ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรหรือระบายเรื่องปัญหาให้ฟังเลย เช้ามาก็ไปทำงานเป็นพนักงานที่ห้างสรรพสินค้า ค่ำมาก็กลับบ้านปกติ
เมื่อวาน (9 พ.ค.) ออกจากบ้านไปก็ยังคุยเล่นกับหลานๆ ปกติ เพียงแต่เขาไม่กลับบ้านไม่สามารถติดต่อได้โทรศัพท์ไปก็ไม่รับต่อมาก็ปิดเครื่อง จนกระทั่งดึกตนและญาติๆ จึงพากันขับรถตระเวนตามหาทั่วเมืองลำพูนแต่ไม่พบ และเตรียมตัวไปแจ้งความคนหายในช่วงสายวันนี้ กระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ก่อน จึงเดินทางมาดูก็พบว่าน้องยุ้ยหลานสาวได้เสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนายโมลิต แก้วสัก อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุและเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า เห็นรถเก๋งคันนี้ขับมาจอดช่วงแรกก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าก็ยังจอดอยู่และเปิดติดเครื่องไว้ตนเองก็เข้าใจว่าคงจอดโทรศัพท์ จนกระทั่งสายวันนี้ก็ยังเห็นจอดอยู่ที่เดิมจึงเดินไปดูและเคาะกระจกเรียกแต่คนในรถไม่ยอมตื่น ไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว
