เชียงใหม่ - "พลเอก ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามความคืบหน้างานตามนโยบายรัฐบาล กราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย และวัดพระธาตุดอยสุเทพ พร้อมร่วมรับฟังข้อเสนอจากคณะสงฆ์และศรัทธา 10 จังหวัดภาคเหนือ ในการเสนอชื่อครูบาศรีวิชัยให้ยูเนสโกพิจารณายกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก ในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล พบหญิงชาวพิจิตรโผล่ป่วนมอบกรวยดอกไม้เน่า
วันนี้ (17 มี.ค. 66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยช่วงสายวันนี้นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล เสร็จแล้วพบปะพูดคุยกับประชาชนที่มารอต้อนรับและมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งทราบต่อมาว่าเป็นชาวจังหวัดพิจิตร นำกรวยดอกไม้เหี่ยวแห้งมอบให้นายกรัฐมนตรี พร้อมบอกว่าเป็นดอกไม้มงคล และถามว่าเมื่อใดจะยุบสภา ซึ่งผู้ติดตามนายกรัฐมนตรีได้รับกรวยดอกไม้ดังกล่าวแทน ขณะที่นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า "เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ" และพูดคุยทักทายกับกลุ่มที่มาให้กำลังใจ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเพื่อรับฟังข้อเสนอจากกลุ่ม 10 จังหวัดภาคเหนือในการสนับสนุนแผนแม่บทโครงการเสนอชื่อครูบาศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ ของยูเนสโก (UNESCO) ในวาระครบ 150 ปี ชาตกาลครูบาศรีวิชัย โดยคณะสงฆ์และศรัทธาประชาชน 10 จังหวัดภาคเหนือที่ครูบาศรีวิชัยเคยจาริกแสวงบุญไปจำพรรษา และบูรณะพัฒนาพระอารามสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นถาวรวัตถุในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก และ สุโขทัย เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อเสนอที่ประชุมสามัญของยูเนสโกพิจารณาในปีพุทธศักราช 2569 และเพื่อพิจารณาการดำเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองการเป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อยูเนสโกของครูบาศรีวิชัยในปีพุทธศักราช 2571 ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ และเข้าร่วมทำพิธีสืบชะตาหลวงตามแบบประเพณีล้านนา โดยคณะพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่นำประกอบพิธีให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมีประชาชนจำนวนหนึ่งมารอให้กำลังใจ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงจากอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นำเสื้อและกระเป๋าย่ามที่ทำจากผ้าทอกะเหรี่ยง กับน้ำผึ้งป่า มอบให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมรับฟังข้อเสนอดังกล่าว
สำหรับครูบาศรีวิชัย เป็นพระมหาเถระซึ่งได้รับการขนานนามว่านักบุญแห่งล้านนา เป็นที่เคารพ นับถือของพุทธศาสนิกชนชาวไทย เสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณในการอุทิศตนเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มีความมั่นคงเจริญรุ่งเรือง มีบทบาทสำคัญในการสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซมวัดวาอาราม โบราณสถานทั่วแผ่นดินล้านนามากกว่า 100 วัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะวัดสำคัญๆ เช่น วัดพระธาตุหริภุญชัยลำพูน, วัดเชียงยืน, วัดพระพุทธบาทตากผ้า, วัดจามเทวี, วัดพระสิงห์วรวิหาร, วัดสวนดอกพระอารามหลวง เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผู้ชักชวนนำประชาชนที่มีจิตศรัทธาร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างถนนสายสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ จากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร โดยไม่ใช้งบประมาณจากภาครัฐ ใช้เวลารวมก่อสร้าง 5 เดือน 22 วัน จึงแล้วเสร็จ ทั้งนี้ เมื่อครูบาศรีวิชัยได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของยูเนสโก จะทำให้เกิดการตามรอยครูบาศรีวิชัย และนำไปสู่การขับเคลื่อนการจัดทำฐานข้อมูลชีวประวัติเพื่อการสืบค้น รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากประชุมที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแล้ว จากนั้นในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีมีภารกิจตรวจติดตามงานต่อที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา และที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เสร็จแล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ