สมุทรสงคราม - ป.ป.ช.บุกตรวจสอบโรงเรียนวัดช่องลม จ.สมุทรสงคราม รอบ 2 ยังพบมีการตักอาหารเตรียมให้ครูทั้งโรงเรียนรับประทาน ผอ.ป.ป.ช.ชี้ไม่ถือเป็นการทุจริต แต่เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ
วันนี้ (7 ก.พ.) นางวริดา ตันบุญเอก ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ไปที่โรงอาหารโรงเรียนวัดช่องลม (ธรรมโชติ) ตำบลบ้านปรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามเพื่อตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันตามระเบียบของสำนักงาน ป.ป.ช.พบว่า แม่ครัวทำอาหารให้เด็กนักเรียน จำนวน 124 คน รับประทานคือ คะน้าผัดน้ำมันหอย ไก่น้ำแดง และของหวานเป็นสับปะรด
โดยมีนักเรียนจำนวนหนึ่งนั่งรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอาหารแบบเดียวกันคือ คะน้าผัดน้ำมันหอย ไก่น้ำแดง และของหวานเป็นสับปะรด จานใหญ่จัดเตรียมไว้อยู่บนโต๊ะ 1 ชุด มีร่องรอยการตักอาหารแต่ไม่พบว่ามีครูมานั่งรับประทาน จึงขอพบ น.ส.ศิริพร ขันติกาล ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ครูทุกคนนำอาหารกลางวันมารับประทานเอง หรือออกไปรับประทานอาหารกลางวันข้างนอกแล้ว แต่ยังไม่ได้สั่งแม่ครัวซึ่งมีอยู่เพียงคนเดียวทราบ จึงยังมีการตั้งสำรับอาหารอยู่ พร้อมยืนยันว่ายังคงยึดผลประโยชน์ของเด็กนักเรียนเป็นหลัก
นางวริดา ตันบุญเอก ผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการอาหารกลางวันเป็นโครงการที่รัฐบาลมุ่งเน้นการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก เนื่องจากพบว่านักเรียนประถมศึกษาจำนวนมากขาดแคลนอาหารกลางวัน หรือมีอาหารกลางวันแต่ปริมาณไม่เพียงพอ หรืออาหารมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ทำให้ภาวะการเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาร่างกายของนักเรียนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และมีน้ำหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์อ้างอิง เพื่อประเมินภาวะการเจริญเติบโตของนักเรียนของกรมอนามัย กระทรวงศึกษาธิการ และเพื่อให้โรงเรียนบริหารจัดการให้เด็กทุกคนในโรงเรียนได้รับประทานอาหารกลางวัน โดยบูรณาการกับผลผลิตทางการเกษตรเพื่อโครงการอาหารกลางวัน
นางวนิดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานป.ป.ช.ได้ตรวจพบความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้น ทาง ป.ป.ช.จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และพบว่าจังหวัดสมุทรสงครามยังไม่มีการทุจริตโครงการอาหารกลางวัน แต่พบว่ามีการรั่วไหลของการจัดซื้อจัดจ้างยังไม่เป็นไปตามระเบียบอยู่บ้าง ส่วนโรงเรียนวัดช่องลมนั้น คุณครูอ้างว่ามีปัญหาเรื่องงบประมาณที่มาไม่ตรงเวลา ทำให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนต้องสำรองจ่ายไปก่อน
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ทางโรงเรียนมีการรวมโครงการอาหารกลางวันกับสวัสดิการครูเข้าไว้ด้วยกันจึงกลายเป็นเด็กกับครูรับประทานอาหารด้วยกัน ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้มีการแยกค่าใช้จ่ายระหว่างเด็กกับคุณครูให้ชัดเจน ทำให้เวลามาตรวจสอบไม่มีเอกสารยืนยันตามส่วนที่เกิดขึ้น ซึ่งสำนักงานป.ป.ช.ได้เสนอแนะผู้อำนวยการโรงเรียนไปแล้ว และทางโรงเรียนยินดีที่จะนำไปปรับปรุง
อย่างไรก็ตาม ในคู่มือของกระทรวงศึกษาธิการได้เขียนไว้ชัดเจนว่า คุณครูไม่ควรรับประทานอาหารร่วมกับเด็ก พอมีการตรวจพบแล้วดูไม่ดี ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ แต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ อีกอย่างเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสมุทรสงครามได้มาตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดช่องลม ซึ่งมีเด็กนักเรียน 124 คน ครู 9 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าคุณครูทั้งโรงเรียนนำอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนไปรับประทาน ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
เนื่องจากภาครัฐได้มีการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนคนละ 21 บาท แม้ว่าทางโรงเรียนจะอ้างว่ามีการเรียกเก็บเงินจากคุณครูครึ่งหนึ่งเข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันแล้วก็ตาม วันนี้จึงมาตรวจสอบอีกครั้งดังกล่าว