MGR Online - ตำรวจ ปปป. เปิดปฏิบัติการ “ไข่นกกระทา” จับ ผอ.โรงเรียนบางชัน เรียกรับเงินใต้โต๊ะผู้ประกอบการโครงการอาหารนักเรียน ยึดเงินสดของกลาง 3.2 แสนบาท
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “ไข่นกกระทา” เข้าจับกุม นายไพฑูรย์ ภูมิช่อ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 329,000 บาท ได้ภายในห้องทำงานโรงเรียน ถ.พระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนว่า นายไพฑูรย์ ได้เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียน เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่า จะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และเรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งเงินส่วนหลังนี้อ้างว่าเป็นค่าดูแลเจ้าหน้าที่เรื่องอาหารของนักเรียน จำนวน 5 คน โดยให้เหตุผลว่าทางผู้ประกอบการได้กำไรจากการจัดทำโครงการดังกล่าวไปแล้ว หากไม่ยอมทำตามก็จะทำเรื่องยกเลิกสัญญา หรือทำเรื่องรายงานไปที่กรุงเทพมหานคร ว่า ผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก หลังทราบเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดดังกล่าวจริง จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับ นายไพฑูรย์ ตามที่ร้องขอ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวน นายไพฑูรย์ ให้การปฏิเสธ อ้างว่า ไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า ก่อนหน้าจะถูกจับกุมได้มีการเชิญตัวผู้ประกอบการมาเข้าพบจริง แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการคนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ แต่ไม่ใช่ของตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ตามที่ทาง ผอ.อ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปปรับปรุงโต๊ะเก้าอี้หรือโรงอาหารนั้น ฟังไม่สมเหตุสมผล เพราะงบอาหารกลางวันนั้น รัฐได้จัดสรรให้เด็กๆ ได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อพัฒนาการทั้งร่างกายและสมองของเด็ก หากนำเงินดังกล่าวมาทำอย่างอื่นถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อยากให้สงสารเด็กตาดำๆ แทนที่จะได้กินไข่ไก่ กลับได้กินแค่ไข่นกกระทาเท่านั้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่างใด ที่ทำไปก็เพื่อช่วยเด็กไทยทั่วประเทศได้กินอาหารเต็มงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้ อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ยังได้รับการร้องเรียนเรื่องการโกงอาหารกลางวันเด็กอีกประมาณ 10 กว่าแห่ง ซึ่งทาง บก.ปปป.จะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการอาหารเด็กนักเรียนดังกล่าว เดิมทีมีการตั้งงบกลางไว้ที่ 12 ล้านบาท ก่อนเปิดให้ผู้ประกอบการต่างๆ เสนอราคาโดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จนมีผู้ชนะการประกวดยื่นรับทำโครงการที่วงเงินงบประมาณ 8 ล้านบาท เฉลี่ยค่าอาหารเช้าและกลางวันต่อเด็กตกรายละ 28 บาท ต่อวัน จากจำนวนเด็ก เกือบ 3 พันคน ภายในกรอบระยะเวลา 100 วัน
ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายศรชัย ชูวิชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.ได้ร่วมแถลงผลจับกุม นายไพฑูรย์ ภูมิช่อ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) ผู้ต้องหาเรียกรับสินบนโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผอ.ไพฑูรย์ เพิ่งย้ายมาใหม่ มาถึงก็เห็นช่องว่างว่าผู้ประกอบการได้กำไรจากอาหารเช้าที่เด็กนักเรียนไม่ค่อยมากินกัน จึงเรียกเงินตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นมา ทางผู้ประกอบการซึ่งได้กำไรจากโครงการดังกล่าวน้อยอยู่แล้ว จึงไปหยิบยืมเงินเพื่อมาจ่ายใต้โต๊ะให้ เนื่องจากถูกขู่ว่าจะยกเลิกสัญญา ตอนหลังผู้ประกอบการทนแบกรับภาวะขาดทุนและพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ ผอ.อ้างว่า จะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้นั้นถือว่าเป็นงบคนละส่วน เงินที่เรียกรับจากผู้ประกอบการนั้นเป็นเงินอาหารกลางวันของเด็ก เด็กต้องได้ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ที่รัฐจัดสรรให้ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการช่วยปรามไม่ให้โรงเรียนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ข้าราชการเกรงกลัวต่อบาปกันบ้าง อย่าไปทำเเบบนี้กับเด็กตาดำๆ เลย
ด้าน นายนิวัติไชย กล่าวว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ พบว่า มี ผอ.เป็นผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว แต่ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ท.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขยายผลว่ามีใครมาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ส่วนกรณีที่ ผอ.อ้างว่าจะนำเงินส่วนดังกล่าวไปจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ 40 ชุดนั้น จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นแค่การกล่าวอ้างเท่านั้น เพราะงบการจัดซื้อทางเขตเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง ป.ป.ท.ได้รับแจ้งข้อมูลการโกงค่าอาหารกลางวันเด็กจำนวนมาก ซึ่งทางเรากำลังเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ตัว นายไพฑูรย์ จะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ รวมถึงอ้างว่าไม่ทราบว่าภายในซองเป็นเงินสด ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้ โดยเฉพาะหลักฐานภาพจากกล้องที่บันทึกไว้ขณะพยานนำซองเงินไปมอบให้กับนายไพฑูรย์ ในห้องทำงานตามข้อเรียกร้อง โดยกล้องดังกล่าวสามารถบันทึกภาพขณะที่นายไพฑูรย์ กำลังเปิดแกะซองเอกสารสีน้ำตาลเพื่อดูเงินของกลางภายในซองได้อย่างชัดเจน ค่อนข้างขัดแย้งกับคำให้การของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก